สำหรับการอัพเดท “บล็อกภาษีข้างถนน” ในตอนนี้ ขออนุญาตเขียนออกมาในรูปแบบของ “บ่นความพิเศษ” แทน “บทความ” ครับ (ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้เขียนหัวข้อผิดแต่ประการใด) เพราะครั้งนี้จะเป็นการ “บ่น” ด้วยอารมณ์ล้วนๆ จากที่ผมได้พบปะพูดคุยกับบรรดาเพื่อนๆพี่น้องในแวดวงบัญชีและสอบบัญชี เกี่ยวกับเรื่องของการ “สัมมนา” นั่นเองครับ

สำหรับคนที่ทำงานด้านวิชาชีพบัญชีแล้ว คงจะทราบกันดีว่า ผู้ทำงานเกี่ยวกับวิชาชีพด้านนี้ ต้องมีการอบรมตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้กำหนด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ทำงานด้านวิชาชีพบัญชี ได้มีการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนืองทางวิชาชีพนั่นเองครับ

โดยในปัจจุบันหลักเกณฑ์การอบรมมีดังนี้ครับ

1. ผู้ทำบัญชี (CPD) : ต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพทุกรอบ 3 ปี โดยในแต่ละรอบต้องมีจำนวนชั่วโมงไม่น้อยกว่า 27 ชั่วโมง และต้องเป็นกิจกรรมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบัญชีไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง ทั้งนี้ในแต่ปีต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

อ้างอิงตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาในการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพของผู้ทำบัญชี พ.ศ. 2547

2. ผู้สอบบัญชี (CPA) : ต้องเข้ารับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพจำนวน 12 ชั่วโมงต่อปี โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการบัญชี หรือสอบบัญชีไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง

3. ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA) : ต้องเข้ารับการอบรมด้านกฎหมายภาษีอากร และความรู้อื่นที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพผู้สอบบัญชีภาษีอากร ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการบัญชี และมาตรฐานการสอบบัญชี ไม่น้อยกว่า 9 ชั่วโมงต่อปี โดยให้นับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตเป็นผู้สอบบัญชีภาษีอากรครบทุกหนึ่งปี

แฮ่ม… ส่วนของเนื้อหาจริงๆจบลงแค่นี้แหละครับ การอบรมที่ว่านี้ ฟังดูเผินๆแล้ว ก็เหมือนว่า การพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทั่วไปใช่ไหมครับ ปีนึงๆเราก็ไปอบรมกันทีนึงให้ชั่วโมงครบ แล้วก็แจ้งกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันไป ได้รับความรู้เฮฮากันไป เอ้าปีหน้าไปอบรมกันใหม่ … เย้ๆๆๆ

แต่โลกที่ว่าก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดน่ะสิครับ เพราะมีหลายๆเรื่องที่มันไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิครับ :)

จากความสัมพันธ์ข้างต้น สิ่งที่จะมีผลต่อผู้เข้ารับการอบรมจะมีอยู่ 3 ส่วนคือ “วิทยากร” กับ “ผู้จัดอบรม” และส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ “ผู้ที่เข้ารับการอบรม” เองใช่ไหมครับ

– วิทยากร –

เอาล่ะครับ ขอเริ่ม “บ่น” ถึง ผู้ที่มีความสำคัญลำดับแรก ก็คือ “วิทยากร” เลยละกันครับ อย่างที่ทราบกันดีว่าวิทยากรส่วนใหญ่ย่อมมีความรู้เป็นอย่างดี แต่อาจจะมีวิธีการถ่ายทอดที่แตกต่างกันไป ซึ่งเรื่องของการถ่ายทอดของวิทยากรนั้น ไม่ได้เป็นประเด็นในการ “บ่น” ครั้งนี้ แต่สิ่งที่ผมและเพื่อนๆหลายคนลงความเห็นว่าเป็นสิ่งที่ “น่าผิดหวัง” ในการอบรม มีดังนี้ครับ

1. วิทยากรที่ชอบพูด “นอกเรื่อง” 

วิทยากรบางท่าน ชอบพูด “นอกเรื่อง” ไม่ตรงกับเนื้อหาที่เตรียมมาในการเรียนการสอน ซึ่งทำให้บางครั้งผู้เข้ารับการอบรมหลายๆท่านง่วงเหงาหาวนอนบ้าง หรือไม่ได้รับความรู้อย่างที่ตั้งใจตามหลักสูตรบ้าง แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่หนักเท่ากับ ประเภทที่ 2 ครับ

2. วิทยากรที่ชอบพูด “นอกประเด็น” 

วิทยากรบางท่าน (ขอใช้คำว่าบางท่าน) ชอบพูดนอกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงอย่าง “การเมือง” อย่างสม่ำเสมอตลอดการบรรยาย ซึ่งวิทยากรบางท่านอาจจะรู้ข้อมูลดีๆเด็ดของฝ่ายไหนสีไหนอยากจะส่งให้เพื่อนๆที่เข้ารับการอบรมช่วยกันไลท์ช่วยกันแชร์ แต่ในบางครั้ง ท่านอาจจะหลงลืมไปว่า การเมืองเป็นเรื่องของความคิดเห็น ที่แต่ละคนไม่เหมือนกัน และก่อเกิดความไม่พอใจให้กับผู้เข้ารับการอบรมบางท่านได้ และอาจจะก่อเกิดความไม่ประทับใจต่อท่านเปล่าๆ

นอกจากนั้น ผมขอเถิดครับ ขออย่างใจจริง ได้โปรดอย่าพูดคำประมาณว่า
“พวกคุณ มาที่นี่เพราะต้องการอบรมไปให้ชั่วโมงครบๆ”
“วันนี้ไม่ต้องซีเรียส เพราะเรามาเก็บชั่วโมง”
“แหม ทำไมเป็นผู้สอบ ผู้ให้บริการ TA CPA CPD แล้วไม่รู้เรื่องแบบนี้ล่ะ”

ขอบอกตรงๆว่า ฟังแล้วเจ็บปวดใจครับ :(

 – สถาบัน (ผู้จัดอบรม) –

ในส่วนของผู้จัดอบรมนั้น สั้นๆง่ายๆก็คือ มีผู้จัดอบรมอยู่ 2 ประเภท คือ ผู้จัดที่เน้นเรื่องของ “ราคาค่าอบรมที่ต่ำ” มากกว่า “คุณภาพในการจัดอบรม” กับ ผู้จัดที่เน้นเรื่องของการ “ราคาค่าอบรมที่สูง” มากกว่า “คุณภาพในการจัดอบรม”

ที่พูดมานี่ไม่ใช่ไม่มีผู้จัดที่คำนึงเรื่องของ “คุณภาพ” หรอกนะครับ เพราะจริงๆก็มีผู้จัดอบรมที่ดีๆมากมายในตลาดนี้ครับ แต่อาจจะหายากหน่อยเพราะว่าช่องทางในการโปรโมทอาจจะมีน้อยกว่าผู้อบรมคนอื่นๆ (แต่ก็ไม่ว่าจะหาไม่เจอซะทีเดียว)

เอาเป็นว่าในส่วนของผู้จัดอบรมเอง ผมก็รบกวนขอความเป็น “มืออาชีพ” ให้คุณภาพ สมกับ ราคา ที่เรียกเก็บด้วยละกันครับ

 – ตัวผู้เข้าอบรม –

ท้ายที่สุดก็คือ ตัวของผู้อบรมเองนี่แหละครับ ที่จะเป็นคนเลือกว่าจะเข้ารับอบรมที่ไหน เงินของเรา เราจ่ายเอง ดังนั้นจงเลือกที่ที่เหมาะสมกับเราที่สุด และมีเนื้อหาที่เราอยากรู้มากที่สุด ไม่ใช่เอาแต่ “ถูกที่สุุด” นะคร้าบบบ

อีกเรื่องก็คือเวลาไปอบรมก็ตั้งใจฟังกันด้วยนะครับ อิอิ (แม้ว่าบางทีจะง่วงไปหน่อยก็ตาม)

.
.
.

สำหรับวันนี้เรื่องที่จะบ่น ก็มีเท่านี้แหละครับ ยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อหรือหาว่า เอ๊ะ !! ทำไมคราวนี้เขียนบทความมาซะแรงงงงส์ … :)

เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆคนไหน เคยเจอหรือมีเหตุการณ์แปลกๆ  ในระหว่างการอบรม อย่าลืมแชร์หรือเล่าให้ฟังบ้างนะคร้าบบบบบบบบ

:D