fbpx

เอมมี่มีเรื่องเล่า : Update กฎหมายภาษีเดือนมกราคม 2556 (1)


เนื่องจากมีหลายๆท่านแนะนำว่า อยากให้ทาง  “บล็อกภาษีข้างถนน” มีบทความแนะนำและอัพเดท (Update) กฎหมายภาษีใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของบทความใหม่ที่ชื่อว่า “เอมมี่มีเรื่องเล่า” ซึ่งเขียนโดยนักเขียนคนใหม่ โดยจะมาเขียน Update ให้ประจำในทุกๆเดือนครับ ในฐานะของผู้ดูแลบล็อก ผมขอฝากนักเขียนคนใหม่ “น้องเอมมี่” กับเพื่อนๆสมาชิกบล็อกภาษีข้างถนน และฝากบทความแรกของน้องเค้าไว้ด้วยนะคร้าบบ

.
.
.

“เอมมี่มีเรื่องเล่า : Update กฎหมายภาษีเดือนมกราคม 2556”

สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นวันแรกของเอมมี่ที่จะมา “เล่าข่าว” ภาษีให้เพื่อนๆฟังนะคะ ก่อนอื่นต้องบอกว่ารู้สึกเป็นเกียรติมากๆเลยค่ะเพราะว่าพี่ “บักหนอม” ได้เชิญให้เอมมี่มาเขียนบทความ Update ภาษีรายเดือนให้กับ “บล็อกภาษีข้างถนน” เอมมี่ขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะ เพราะว่ายังเป็นมือใหม่ในการเขียนบทความแนวนี้ แต่ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับเพื่อนๆ และฝากติดตามผลงานต่อๆไปด้วยนะคะ (รักนะจุ๊บๆๆๆๆๆ)

(เข้าสู่โหมดจริงจัง) แม้ว่าเดือนนี้เป็นเดือนมกราคม 2556 เดือนแรกของปี แต่ก็เป็นเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับภาษีมากมายเลยค่ะ โดยเอมมี่จะขออัพเดทในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีผลกระทบมากที่สุดก่อนค่ะ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

แค่ Update เรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเรื่องเดียว เอมมี่ก็อยากจะกรี๊ดออกมาเป็นภาษาสเปนแล้วค่ะ เพราะว่ากฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมว้วกกกก ทั้งเรื่องของการปรับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ที่ยังอยู่ระหว่างร่างกฎหมาย ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปเมื่อสักสองสามอาทิตย์ก่อน รวมถึงเรื่องของการปรับอัตราภาษีคณะบุคคลและห้างหุ้นส่วนสามัญ นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องของผัวๆเมียๆ (อุ้บ!! ไม่ใช่สิ) สามี-ภรรยา ให้สามารถ “แยกยื่นแบบแสดงรายการ” ทำให้เกิดผลกระทบในการยื่นแบบแสดงรายการของคนที่มีคู่หลายๆคน (แต่เอมมี่ยังไม่มีคู่นะคะ คิคิคิ) เอาล่ะค่า มาเริ่มที่อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากันก่อนเลย

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบใหม่

จริงๆแล้วเอมมี่ว่าพี่”บักหนอม”เค้าเขียนสรุปไว้ได้ดีแล้วนะคะ (อิอิ อวยกันเองซะเรยยย) ใน “[บทความพิเศษ] ปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ ใครได้ ใครเสีย !!” แต่เอมมี่จะเอามาสรุปให้ฟังอีกทีนะคะ เริ่มต้นแค่ดูรูปนี้รูปเดียวก็พอแล้วล่ะคะ ไม่รู้ว่าพี่หนอมเค้าจะเขียนอะไรเยอะแยะ เอมมี่มั่นใจว่าคนอ่านเค้าฉลาดค่ะ!! ดูรูปเดียวก็เข้าใจแบ้วแจ้

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2556

ดูจากรูปคงเห็นแล้วนะคะว่าอัตราภาษีใหม่จะถูกปรับเปลี่ยนให้เพิ่มขึ้นจาก 5 ระดับเป็น 7 ระดับ แต่เสียภาษีในอัตราที่ลดลงของแต่ละช่วง ซึ่งก็เป็นผลดีค่ะเพราะเราทุกคนได้สิทธิเสียภาษีที่ลดลงแต่ใครจะได้สิทธิลดมากกว่าใครนั้น “เรื่องนี้เอมมี่จะไม่ยุ่ง” นะคะ เป็นเรื่องอารมณ์และความรู้สึกล้วนๆค่ะ !!

โดยอัตราภาษีใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2556 และยื่นแบบแสดงรายการในปี 2557 แต่เอมมี่ขอแนะนำว่ายังไงพี่ๆทั้งหลายก็อย่าเพิ่งร้อนใจไปนะคะ รอให้มีตัวกฎหมายออกมาจริงๆจังซะก่อน เอมมี่ก็จะเอามา Update ให้ฟังอีกทีละกันคร่า

ส่วนเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆที่มักจะมีคำถามบ่อยๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ เอมมี่เอามาสรุปไว้ให้อ่านที่นี่แล้วนะคะ อ่านได้เลยค่ะ
1. เริ่มใช้ปีไหน : บอกไปแล้วนะคะว่าเริ่มใช้ปี 2556 อ่านบ้างนะคะ อย่าถามบ่อยๆ เพราะเอมมี่จะไม่ทน!!!
2. รายได้ประเภทไหนที่ได้ลด : ลดทุกประเภทของเงินได้ค่ะ ปกติบุคคลธรรมดามีเงินได้อยู่ทั้งหมด 8 ประเภท ลองถามตัวพี่เองว่ามีเงินได้กี่ประเภท ก็เอามารวมกันหลังจากนั้นก็คำนวณภาษีตามภาษีอัตรานี้นะคะ
3. ผมเป็น xx จะได้รับลดไหม ฉันมีกิจการ xxx จะได้ลดไหม : สรุปนะคะ (ดูปากนะคะ) ถ้าพี่ยังมีสถานะเป็นคนอยู่ หรือเรียกตัวเองว่าเป็นบุคคลธรรมดาได้เต็มปากเต็มคำ และ “มีรายได้ที่ต้องเสียภาษี” อยู่ ลดทุกแบบค่ะ จบนะคะ!!

ปรับภาษีคณะบุคคลและห้างหุ้นส่วนสามัญ

เรื่องที่สองนี้ เอมมี่ชอบมากค่ะ อ่านกฎหมายแล้วหัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้าเลยล่ะคะ ขอเล่าให้ฟังว่าในสมัยก่อนนั้น คนบางคนที่มีรายได้มากๆบางคนเค้ากลัวจะต้องเสียภาษี (ไม่รู้จะกลัวทำไมนะคะ ภาษีไม่ใช่ผีสักกะหน่อย แต่สรรพากรน่ากลัวกว่าผีอีกเนอะ :p) ก็เลยมี “ผู้รู้” หลายๆท่านแนะนำให้กระจายฐานรายได้ไปเป็น “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” หรือ “คณะบุคคล” ซะเลย เพื่อที่จะได้เสียภาษีน้อยๆ เพราะฐานรายได้ต่ำลง (ถ้าใครไม่เข้าใจเรื่องนี้กรุณาอ่าน [ บทความพิเศษ ] ดาราไทยกับการเสียภาษี เพราะเอมมี่ไม่อยากอธิบายซ้ำแล้วค่ะ ขอร้องนะคะ พลีสสส)

พอคนฉลาดพวกนี้เค้าทำแบบนี้กันมากๆเข้า มันเลยเกิดปัญหาจากการใช้ประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ทางกรมสรรพากรก็เลยเห็นว่าน่าจะมีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเสียใหม่เพื่อป้องกันการวางแผนหลีกเลี่ยงภาษีจากคนฉลาดๆเหล่านี้ (แหมมมม ช้าไปหน่อยไหมคะ พี่สรรพาก้อนนน)

ทีนี้ก็ต้องมาตีความกันใหม่ค่ะ ตั้งแต่ความหมายของ คณะบุคคล และ ห้างหุ้นส่วนสามัญ เอมมี่ขอสรุปสั้นๆเลยละกันนะคะ

“คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล”
คือ บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกันโดยไม่มีวัตถุประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น ตัวอย่างเช่น การจัดตั้งชมรมของนักเรียน หรือคนทำงาน ที่มีกิจกรรมร่วมกัน หรืออาซิ้มอาซ้ออาม่าอาเจ็กอาอึ้มที่เก็บเงินร่วมกัน เป็นต้นค่ะ

“ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิใช่นิติบุคคล” คือ ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และให้หมายความรวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญที่อธิบดีกำหนด โดยอนุมัติรัฐมนตรี และประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ในส่วนของอัตราภาษีที่เปลี่ยนแปลงนั้น เท่าที่เอมมี่สืบทราบมา ทางรัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติกำหนดให้คณะบุคคลหรือส่วนที่ไม่ใช่นิติบุคคลตามกฎหมาย โดยให้คณะบุคคลเสียภาษีทันที 20% จากยอดรายรับ และห้างหุ้นส่วนสามัญ ก็จะเสีย 20% ของกำไร (รายรับสุทธิ) ค่ะ

PIT

แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่นั้น เอมมี่ว่ารอดูตัวกฎหมายอีกทีจะดีกว่านะคะ อย่าเพิ่งใจเร็วเครียดกันไปก่อนค่ะ พวกพี่ๆบรรดาคนฉลาดทั้งหลายก็คงจะหาทางเลี่ยง เอ้ย ทางออกได้อยู่แล้วล่ะค่ะ เอมมี่เอาใจช่วยและมั่นใจในตัวพวกพี่นะคะ (ยิ้มมุมปากพร้อมกับมองด้วยสายตาจิกกัดนิดส์ๆ)

สามี-ภรรยา สามารถ “แยกยื่น” เงินได้พึงประเมิน

มาถึงเรื่องสุดท้ายแล้วนะคะ สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลยค่ะ จุดเริ่มต้นมาจากความเห็นแก่ตัวของพวกผู้ชายค่ะ เอมมี่เกลียดที่สุด!!! จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันก็มีอยู่ว่าในสมัยก่อนผู้ชายทำหน้าหาเลี้ยงครอบครัว แต่ดันมีพวกผู้ชายหัวหมอ หน้าไม่อาย แอบโอนทรัพย์สินให้บรรดาเมียๆในสังกัดดูแล แต่ไม่ให้เงินใช้สักบาท แหม!!!! ถือว่าเป็นคนหาเลี้ยงหน่อยก็เล่นกันง่ายๆแบบนี้เลย ไอ้เราเลี้ยงลูกเต้าอยู่บ้าน ถือไว้แค่ทรัพย์สิน แต่รายได้นี่ ผัวเผอเม้มไปหมด เชอะ!! (อดีตขมขื่นของเอมมี่เองเจ้าค่ะ) ทางเจ้าขุนมูลนายของบ้านเมืองในสมัยนั้น มองว่าไม่ใช่พฤติกรรมของชายชาตินักรบ เลยให้ถือเงินได้ของภรรยาเป็นของสามี เพื่อเป็นการกำราบขุนนางฉ้อฉล ไม่ให้จักเอาเยี่ยงอย่างงงงงงสืบไป

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ปัจจุบันนี้เงินทองเป็นของนอกกาย แม้ไม่ตายก็หายากจุงเบยยย ทำให้ทั้งผัวทั้งเมียต้องช่วยกันทำมาหากินค่ะคู้ณณณณณขาาาาาาา ดังนั้นเลยมีผู้หวังดีไปร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ช่วยวินิจฉัยว่ากฎหมายข้อนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และทางศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า “ขัด” และ “จำกัดสิทธิ” ซึ่งถือว่า ไม่ส่งเสริมความเสมอภาคของชายและหญิงค่ะ

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีความมาแล้ว กรมสรรพากรจึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากสามีและภริยาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัย  และได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 18) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2555 เพื่อบังคับใช้สำหรับกรณีนี้โดยเฉพาะ (แก้ไขประมวลรัษฎากรนั่นเองค่ะ) โดยใจความสรุปก็คือ

1. ถ้าสามีภรรยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ให้ “แยกยื่น” แบบแสดงรายการ
2. กรณีที่เงินได้ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นของสามีหรือภรรยาคนละเท่าไร ให้แบ่งกันฝ่ายละครึ่ง (50%) ยกเว้นเงินได้ตามมาตรา 40(8) สามารถแบ่งได้ตามสัดส่วนตามที่ตกลงกัน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ (เกิดทะเลาะกันจนเป็นปัญหาครอบครัวขึ้นมา) ก็ให้แบ่งกันคนละครึ่ง (50%)
3. สามีและภรรยาสามารถยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีรวมกัน โดยให้ถือเอาเงินได้พึงประเมินของตนเป็นเงินได้ของสามีหรือภรรยาก็ได้ หรือจะแยกยื่นเฉพาะเงินได้ตามมาตรา 40(1) (เหมือนเดิม) ก็ได้ “แต่” ถ้ามีภาษีค้างชำระต้องร่วมรับผิดในการเสียภาษีที่ค้างชำระด้วยกัน (ยังมีความรับผิดชอบร่วมกันอยู่ค่ะ)

โดยหลักการของสามีภรรยาก็ก็มีเท่านี้ค่ะ แต่ยังไงก็ตามเอมมี่ขอแนะนำให้รอ ร้อ รอ คำชี้แจงเพิ่มเติมของกรมสรรพากรอีกครั้งนะคะ เพราะว่าสายสืบของเอมมี่ได้แจ้งมาค่ะว่าในคำชี้แจงของกรมสรรพากรฉบับลงวันที่ 19 กันยายน 2555 ยังมีความคลาดเคลื่อนในหลายส่วนและตอนนี้กรมสรรพากรกำลังเร่งออกคำชี้แจงใหม่อีกฉบับอยู่ค่ะ

แต่ตอนนี้เท่าที่เอมมี่สังเกตเห็น แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2555 ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปบางส่วนแล้วนะคะ โดยในส่วนของข้อมูลคู่สมรสก็จะมีส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือ “สถานะการยื่นแบบ” ว่าเป็นอย่างไร แยกยื่น ยื่นรวมหรือ แยกยื่นเฉพาะประเภทค่ะ

ภงด.90

นอกจากนั้นการเปลี่ยนแปลงของแบบแสดงรายการปี 2555 ยังมีในส่วนของข้อมูลเงินได้ที่เราเอาไปกรอกแบบแสดงรายการด้วยค่ะ จะเหลือเพียงแค่ช่องเดียวจากเดิมที่แยกไว้ระหว่างผู้มีเงินได้กับคู่สมรส ดูตามภาพได้เลยค่ะ

แบบแสดงรายการ

แต่ข้อมูลล่าสุดที่กรมสรรพากรแจ้งมาก็คือ สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สําหรับปีภาษี 2555 ผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นยังจะเปิดให้บริการในกรณีที่ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้และต้องการแยกยื่นแบบแสดงรายการเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าใครยังอยากจะยื่นแบบรวมหรือต้องการแยกยื่นเฉพาะเงินได้ตามมาตรา 40(1) อยู่ล่ะก็ต้องใช้วิธีการยื่นแบบโดยวิธี “กระดาษ” และสามารถดาวน์โหลดแบบแสดงรายการภาษีได้ที่ เว็บไซต์ กรมสรรพากรโดยตรงเลยค่ะ

เป็นไงบ้างคะ สำหรับบทความนี้ เอมมี่ได้สรุปประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีการเปลี่ยนแปลงให้กับเพื่อนๆพี่ๆแล้วนะคะ คิดว่าน่าจะครบถ้วนในประเด็นสำคัญๆทั้งหมดแล้วล่ะคะ และก็ขอฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งนะคะกับนักเขียนหน้าใหม่ประจำ “บล็อกภาษีข้างถนน” หวังว่าคงได้รับการต้อนรับที่ดีจากพี่ๆเพื่อนๆ และน้องๆทุกท่านนะคะ ถ้าอ่านแล้วขัดใจก็อย่าว่าอะไรเอมมี่นะคะ (เอมมี่กลัวววววว)

สำหรับวัน (เดือน) นี้คงต้องลาไปก่อนค่ะ พบกันใหม่ในเดือนหน้านะคะ / บาย

error: เว็บไซต์ป้องกันการ copy