รอบระยะเวลาบัญชี
มาตรา 65 แห่งประมวลรัษฏากร กำหนดไว้ว่ารอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวให้มีกำหนดสิบสองเดือนเว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้จะน้อยกว่าสิบสองเดือนก็ได้คือ
(ก) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเริ่มตั้งใหม่ จะถือวันเริ่มตั้งถึงวันหนึ่งวันใดเป็นรอบระยะเวลาบัญชีแรกก็ได้
(ข) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอาจยื่นคำร้องต่ออธิบดี ขอเปลี่ยนวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
ซึ่งข้อความดังกล่าวอยู่ในมาตรา 11966 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในเรื่องรอบระยะเวลาบัญชี ว่างบดุลต้องมีรอบระยะเวลาบัญชี 12 เดือน และนำมาสู่ มาตรา 65 ในประมวลรัษฎากร
พิจารณาออกเป็นกรณีต่างๆดังนี้
1.กรณีขออนุมัติเอง ให้พิจารณาแนวทางตามเลขที่หนังสือ กค 0811/1453 ลงวันที่ 26 มกราคม 2526 คือบริษัทต้องยื่นคำขอและ ภ.ง.ด. 50 เสนอให้สรรพกรพื้นที่แล้วขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากร ประเด็นสำคัญของหนังสือฉบับนี้ คือ ทันทีที่ได้รับอนุมัติบริษัทฯจะต้องแจ้งให้กระทรวงพาณิชย์ให้ทราบด้วย
2. บริษัทเลิกประกอบกิจการ ตามมาตรา 72(2) วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดไว้ว่า วันที่เจ้าพนักงานเขารับจดทะเบียนเลิก ถือเป็นวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี (วันที่รับจะทะเบียนเลิกอาจไม่ใช่วันสุดท้าย)
3. กรณีควบเข้ากัน มาตรา 73 แห่งประมวลรัษฎากร คือ A+B=C มีแบบเดียว คือ A ควบกับ B หายไป ได้ C วันที่ได้ C ขึ้นมา คือวันสุดท้ายที่ A กับ B เลิกกัน
4. กรณีขยาย เป็นกรณีชำระบัญชีไม่ทัน วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี คือวันที่เลิกไม่สามารถชำระบัญชีได้ทัน คือ เกิดความล่าช้า ก็สามารถขออนุมัติได้เช่นกัน
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
สิ่งที่ผู้ประกอบการอาจจะสูญเสียสำหรับการเปลี่ยนรอบระยะเวลาบัญชีก็คือ มีผลทำให้ขาดทุนสุทธิที่ยกมาไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชีหมดเร็วขึ้น