ข่าวสำคัญด้านทำบัญชีจากคณะกรรมการด้านทำบัญชี สภาวิชาชีพบัญชี ครั้งที่ 19
รายละเอียดเต็มๆอ่านได้ที่นีครับ
http://fap.or.th/subfapnews.php?id=278
ประมาณการทางบัญชี
ประมาณการทางบัญชีเกิดจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจ ทำให้กิจการไม่สามารถวัดมูลค่าบางรายการได้อย่างแม่นยำ เช่น หนี้สงสัยจะสูญ มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินหรือหนี้สินทางการเงิน สินค้าล้าสมัย อายุการให้ประโยชน์หรือรูปแบบการใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ รวมถึงมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ที่เสื่อมค่า ภาระผูกพันจากการรับประกัน
เมื่อข้อเท็จจริงที่ใช้จัดทำประมาณการเปลี่ยนแปลงไปหรือกิจการมีข้อมูลใหม่หรือประสบการณ์แตกต่างจากเดิม กิจการอาจปรับปรุงประมาณการ รายการปรับปรุงนี้ไม่เกี่ยวกับงบการเงินงวดก่อนและไม่ถือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาด
การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีให้ใช้วิธีเปลี่ยนทันทีเป็นต้นไป (Prospective) คือบันทึกการเปลี่ยนแปลงในวันที่มีการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีตั้งแต่งวดนั้นและงวดอนาคตต่อไปจนกว่าจะมีข้อเท็จจริงหรือข้อมูลที่ให้ต้องเปลี่ยนประมาณการใหม่ โดย
– รับรู้ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีทันทีในกำไรหรือขาดทุนในงวดที่เปลี่ยนแปลงเมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นกระทบงวดเดียวหรือในงวดที่เปลี่ยนแปลงและงวดต่อ ๆ ไปเมื่อการเปลี่ยนแปลงกระทบงวดเหล่านั้น
– รับรู้ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงมูลค่าสินทรัพย์ หนี้สินหรือรายการในส่วนของเจ้าของโดยปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีของรายการในงบแสดงฐานะการเงินในงวดที่มีการเปลี่ยนแปลง
และต้องเปิดเผยข้อมูลดังนี้
– ลักษณะและจำนวนเงินของการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีที่มีผลกระทบต่องบการเงินงวดบัญชีปัจจุบันหรืองวดต่อ ๆ ไป เว้นแต่ไม่สามารถประมาณจำนวนเงินของผลกระทบได้
– หากไม่เปิดเผยผลกระทบต่องวดบัญชีในอนาคตเพราะไม่สามารถประมาณผลกระทบได้ ต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงนั้น
ความแตกต่างของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีและการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี คือ การเปลี่ยนแปลงวิธีการวัดมูลค่าเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี แต่กรณีที่ยากจะแยกความแตกต่างว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีหรือ ประมาณการทางบัญชีให้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี เช่น
ตัวอย่างที่ 1
บริษัทเคยวัดมูลค่าที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ด้วยราคาทุน แต่บริษัทเห็นว่า วิธีราคาที่ตีใหม่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจมากกว่า ในกรณีนี้ การเปลี่ยนไปใช้ราคาที่ตีใหม่คือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีต้องปรับย้อนหลัง
ตัวอย่างที่ 2
บริษัทประสงค์จะเปลี่ยนวิธีคิดค่าเสื่อมราคาจากวิธีเส้นตรงเป็นวิธีผลบวกลำดับปี และผลจากการประเมินมูลค่าคงเหลือ สินทรัพย์มีมูลค่าคงเหลือเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าเสื่อมราคาลดลงอย่างมาก แนวปฏิบัติที่ใช้ปรับปรุงบัญชีคือ การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี เพราะกิจการมีข้อเท็จจริงใหม่ว่า รูปแบบการใช้งาน การเสื่อมสภาพ รวมถึงมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยประมาณไว้
ข้อสังเกตทางภาษี
ข้อสังเกตที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของอาคารและอุปกรณ์ต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรก่อน ดังนั้น หากกิจการประสงค์จะเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชีในเรื่องนี้ อาจต้องพิจารณาว่าจะปรับปรุงให้ระบบงานบัญชีกับระบบงานภาษีสอดคล้องกันหรือให้ระบบงานต่างกันโดยปรับปรุงเฉพาะเมื่อยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่านั้น
ข้อผิดพลาด
ข้อผิดพลาดในงวดก่อน หมายถึง การละเว้นการแสดงรายการและการแสดงรายการที่ขัดต่อข้อเท็จจริงในงบการเงินของกิจการในงวดหนึ่งหรือหลายงวดเพราะล้มเหลวที่จะใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือหรือใช้ข้อมูลผิด ข้อมูลนั้นมีงบการเงินของงวดก่อนที่ได้รับอนุมัติให้ออกและคาดการณ์ว่าหาข้อมูลมาทำงบการเงินได้ ข้อผิดพลาดในงวดก่อนให้รวมผลกระทบการคำนวณผิดพลาด การมองข้ามหรือตีความข้อเท็จจริงผิด ทุจริต
ข้อผิดพลาดอาจเกิดจากการรับรู้ วัดมูลค่า นำเสนอข้อมูลหรือเปิดเผยองค์ประกอบของงบการเงิน ประเด็นสำคัญคืองบการเงินถือว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีถ้ามีข้อผิดพลาดที่มีสาระสำคัญหรือไม่มีสาระสำคัญแต่เกิดขึ้นอย่างจงใจเพื่อให้งบการเงินแสดงฐานะการเงิน ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดตามที่ฝ่ายบริหารต้องการ
การแก้ไขข้อผิดพลาดในงวดก่อน ต้องปรับย้อนหลังงบการเงิน ทั้งการปรับงบการเงินงวดก่อนที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบเสมือนว่าข้อผิดพลาดไม่เกิดเกิดขึ้น หากข้อผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นก่อนงวดบัญชีแรกสุดที่นำมาเปรียบเทียบ ต้องปรับปรุงยอดคงเหลือยกมาต้นงวดของสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของในงบการเงินงวดแรกสุดที่นำมาแสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ
ความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและการแก้ไขข้อผิดพลาด คือ การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีเป็นการทบทวนเมื่อกิจการได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ผลกำไรขาดทุนของรายการที่มีความไม่แน่นอนไม่ถือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาด
การเปิดเผยข้อมูลข้อผิดพลาดในงวดก่อน
– ลักษณะของข้อผิดพลาดในงบการเงินงวดก่อน
– จำนวนเงินของรายการปรับปรุงที่กระทบรายการในงบการเงินแต่ละบรรทัดและกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานกับกำไรต่อหุ้นปรับลด
– จำนวนเงินของรายการปรับปรุง ณ วันต้นงวดบัญชีแรกสุดที่นำมาเปรียบเทียบ
– หากไม่สามารถปรับงบการเงินย้อนหลัง ต้องเปิดเผยสถานการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถปรับงบการเงินและรายละเอียดการแก้ไขข้อผิดพลาดที่กิจการดำเนินการ
ส่วนงบการเงินงวดบัญชีถัดไปไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อีก