fbpx

มาตรการภาษีที่ดำเนินการโดยกรมสรรพากร เดือนพฤศจิกายน 2554 (2)

โพสต์เมื่อ: 20 ธ.ค. 2011

ป้ายกำกับ: , , ,


6 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทย

6.1 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในตราสารการเงินที่ออกเพื่อระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลาม(ศุกูก)

สถานะ: ชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

(1) ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ ให้แก่ผู้ระดมทุนและทรัสตีในธุรกรรมที่เกี่ยวกับศุกูก สำหรับเงินได้ รายรับ และการกระทรวงตราสาร อันเนื่องมาจากการโอนหรือก่อทรัพย์สินหรือสิทธิใดๆ ในทรัพย์สินระหว่างผู้ระดมทุนและทรัสตีหรือระหว่างทรัสตีกับทรัสตีตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์
(2) ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ทรัสตีในธุรกรรมที่เกี่ยวกับศุกูก สำรหับเงินได้จากกองทรัสต์แต่ไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมหรือผลประโยชน์อื่นใดที่ทรัสตีได้รับจากการให้บริการเป็นทรัสตีตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์
(3) ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินชดเชยเงินปันผลหรือเงินปันผลที่ได้จากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยให้แก่ผู้ระดมทุน
(4) ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่ผู้ถือศุกูกที่เป็นบุคคลธรรมดาสำหรับผลประโยชน์ที่ได้จากการถือศุกูกหรือผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนศุกูก โดยผู้ถือศุกูกต้องยอมให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้ที่ได้รับ ทั้งนี้เฉพาะกรณีที่ผู้ถือศุกูกไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

6.2 มาตรการยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้จากเงินปันผลในระดับนิติบุคคลกำหนดให้บริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยไม่ต้องนำเงินปันผลที่ได้จากบริษัทจำกัดที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายหรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือุตสาหกรรมและเงินส่วนแบ่งกำไรที่ได้จากกิจการร่วมค้ามารวมคำนวณเป็นรายได้ ทั้งนี้ เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกำไรต้องจ่ายจากกำไรสุทธิที่ผู้จ่ายเงินได้อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

สถานะ: รอชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกา

ทั้งนี้ บริษัทจำกัดที่มีเงินได้เป็นเงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งกำไรดังกล่าว จะต้องถือหุ้นหรือหน่วยลงทุนที่ก่อให้เกิดเงินปันผลและเงินส่วนแบ่งกำไรนั้นไว้ไม่น้อยกว่า 3 เดือนนับแต่วันที่ได้หุ้นหรือหน่วยลงทุนนั้นมาถึงวันที่เงินได้ดังกล่าว และไม่ได้โอนหุ้นหรือหน่วยลงทุนนั้นไปก่อน 3 เดือนนับแต่วันที่มีเงินได้รอชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกา

6.3 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการควบกิจการ

สถานะ: ชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

(1) ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ผู้ถือหุ้น สำหรับเงินได้ตามมาตรา40(4)(ฉ) แห่งประมวลรัษฎากร จากการโอนหุ้นเพื่อแลกกับหุ้นในบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัด ไม่อันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้รับโอนจากการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด เฉพาะการโอนหุ้นที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันกับการควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน
(2) ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดใหม่อันได้ควบเข้ากัน ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และคงจัดเก็บในอัตราภาษีเงินได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่จะได้กำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกินกว่ารอบระยะเวลาบัญชีที่เหลืออยู่ของบริษัทเดิมอันได้ควบเข้ากัน แล้วแต่ระยะเวลาใดจะน้อยกว่า

6.4 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการโอนย้ายเงินออมในระบบการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

สถานะ: ชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่รอเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อเปลี่ยนแปลงวันที่เริ่มบังคับใช้

กำหนดให้ปรับปรุงการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยไม่ต้องอิงกับการเกษียณอายุโดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจาก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังต่อไปนี้
(1) เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับ เนื่องจากลูกจ้างออกจากงานเพราะตาย ทุพพลภาพหรือเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
(2) เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่มีสิทธิได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากลูกจ้างออกจากงานในกรณีอื่นนอกจาก (4.1) แต่เมื่อออกจากงานแล้วได้คงเงินหรือผลประโยชน์นั้นไว้ทั้งจำนวนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และต่อมาได้รับเงินหรือผลประโยชน์หลังจากลูกจ้างผู้นั้นตาย ทุพพลภาพ หรือเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด

6.5 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงตลาดทุนไทยกับตลาดทุนในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน

สถานะ: ชี้แจงคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

(1) กำหนดให้ยกเว้นภาษเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่มีการซื้อขายผ่านระบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้นเพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เป็นประเทศสมาชิกอาเซียน
(2) กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งอยู่ในประเทศและได้รับเงินปันผลจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ ซึ่งได้นำหลักทรัพย์เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และยอมให้ผู้จ่ายเงินได้นั้น หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินปันผลดังกล่าวมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้

7. การขยายเวลามาตรการภาษีสำหรบวิสาหกิจชุมชน

สถานะ: ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

การขยายเวลามาตรการภาษีสำหรับวิสาหกิจชุมชนเป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อช่วยให้วิสาหกิจชุมชนที่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กได้รับการสนับสนุนและบรรเทาภาระอย่างต่อเนื่อง โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับปีละไม่เกิน หนึ่งล้านแปดแสนบาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

8. มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

สถานะ: พระราชกฤษฎีกาฯ ฉบับที่ 528 (คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด)

การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกินจำนวนภาษีที่พึงชำระในแต่ละปีภาษี ให้แก่บุคคลธรรมดาที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของตนเองหลังแรก ซึ่งมีมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อแต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยใช้สิทธิยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่าๆ กัน เป็นเวลา 5 ปี ตามจำนวนที่จ่ายจริง ทั้งนี้จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555
error: เว็บไซต์ป้องกันการ copy