รู้ทะลุ LTF ตอนที่ 2 : ถ้าไม่ดีก็สับแม่มเลย! FEAT. TIF
สวัสดีมากครับ… กลับมาพบกันอีกครั้งในตอนที่ 2 ของบทความชุด “รู้ทะลุ LTF” (ฟังแล้วคล้ายๆกาแฟเขาทะลุนะเนี่ย – -“) ตอนนี้เรายังอยู่กับพี่ SJ แอดมินชื่อดังแห่ง Thailand Investment Forum และน้องหนอม @TAXBugnoms เหมือนเช่นเคย โดยเราจะมาลงลึกในเคล็ดลับระดับเมพพพกันต่อในเรื่องของ “ผลตอบแทนจากการลงทุน” และการ “สับเปลี่ยนกองทุน” เพื่อประโยชน์ในการลงทุนที่สูงสุด นอกเหนือจากการลดภาษีเพียงอย่างเดียว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาว่ากันต่อเลยดีกว่าคร้าบ
ซื้อ LTF ที่ไหนก็เหมือนกันสินะ!
หลังจากที่ ตอนที่ 1 เราได้รู้ไปแล้วว่า LTF นั้นมีประเภทที่แตกต่างกันมากมาย แต่เท่านั้นมันยังไม่พอ!!! (โทดนะคือจะตกใจทำไม) เพราะผลการดำเนินงานของ LTF แต่ละค่าย (บลจ.) ก็ยังแตกต่างกันครับ! นั่นหมายความว่า มี LTF บางกองที่ให้ผลตอบแทนแบบกำไรสุดใจ แต่บางก็ไม่ไปไหนเลยจ๊ะ พี่ชาย!! เฮ้อ… พูดแล้ว @TAXBugnoms ก็เกิดอาการเซ็งขึ้นมาตะหงิดๆเลยครับ (/พี่ SJ เดินมาตบบ่าให้กำลังใจ)
ถ้าไล่ดูข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี ในช่วงที่เป็นยุคทองของตลาดหุ้น (ขาขึ้น) LTF ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดนั้น มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 73% ส่วนกองที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุด มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 15% เท่านั้น และถ้าหากดูข้อมูลย้อนหลังกลับไป 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดเป็นขาลง กองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีสุด ยังติดลบเพียงแค่ 8% ส่วนกองที่แย่ที่สุดนั้น กลับติดลบไปถึง 16%
(Credit: ข้อมูลจาก SiamChart.com)
หมายเหตุ: ลำดับที่ 48 50 และ 51 เป็นกองทุนประเภทที่ 3 คือมีอนุพันธ์ช่วยลดความผันผวนของราคา
ดังนั้น ถึงแม้จะเป็นกอง LTF (ที่คิดว่า) เหมือน ๆกัน แต่กลับให้ผลตอบแทนต่างกันหลายเท่าตัว ห๊ะ!!! มายก็อด นี่มันเรื่องจริงหรือว่าความฝันกันล่ะเนี่ยยยยยยย เฮ้ออออออ ตรูไม่น่าหลงผิดไปซื้อกองทุนแบบนี้เลย (/พี่ SJ เดินมาลูบหุัวให้กำลังใจ)
จากผลตอบแทนที่เปรียบเทียบกันข้างต้นนั้น สรุปได้ว่า กองทุน LTF นั้นมีหลายประเภทและเหมาะสมกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกันไป แถมผู้บริหาร LTF แต่ละค่าย(บลจ.) ก็มีฝีมือในการบริหารกองทุนแตกต่างกันอีกด้วย แล้วทีนี้เราจะแก้อย่างไรเพื่อให้ผลตอบแทนที่เราได้นั้นสูงสุด ขอบอกว่าไม่ยากเลยครับ เราแค่กลับไปแก้กันตรงจุดเริ่มต้น นั่นคือ กองไหนอ่อนแอ กองนั้นสูญพันธ์ ชั้นจะสับเปลี่ยนกองให้เธอว์ดู …
สับ LTF แม่มเลยครับ!! พี่น้องงงงงงงงง
เมื่อผลตอบแทนในการลงทุนของกองทุน LTF ที่เราถืออยู่นั้นไม่ถูกใจ การขยับปรับตัวเพื่อย้ายกอง LTF ได้อย่างเหมาะสม ก็น่าจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้ จริงไหมล่ะครับ! แต่อย่างไรก็ตามการโอนย้าย LTF มี 2 ลักษณะนั่นคือ โอนย้ายภายในค่าย (บลจ.) และ โอนย้ายข้ามค่าย (บลจ.) กันเลย
โอนย้ายภายในบลจ. เดียวกัน : จาก LTF กอง A ไป LTF กอง B การโอนลักษณะนี้จะไม่เสียค่าธรรมเนียมโอนออก เพราะถือเป็นการย้ายของในกระเป๋าซ้ายไปใส่กระเป๋าขวา (ของบลจ.เดียวกัน)
โอนย้ายข้ามบลจ. : การโอนลักษณะนี้ บลจ.ต้นทาง (บลจ.ปัจจุบันที่เรามี LTF อยู่) จะคิด “ค่าธรรมเนียมการโอนออก” อาจจะคิดเป็น % ของมูลค่ากองทุนที่จะโอน หรืออาจจะคิดเป็นค่าธรรมเนียมต่อรายการก็ได้ อันนี้ก็เข้าใจกันได้ว่ามันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละบลจ.จะต้องจัดใส่ทุนในการ “เลิกเป็นลูกค้า” ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน (เพราะไม่อยากให้จากไปง่ายๆ) ส่วนบลจ.ปลายทาง (บลจ.ที่จะย้ายไป) จะไม่คิดค่าธรรมเนียมการโอนเข้าแต่อย่างใด เพราะถือเสมือนว่าเป็นการซื้อกองทุนตามปกติ
ดังนั้น เงินลงทุนในกองทุน LTF จะสามารถโอนออกไปยังกองทุน LTF อื่น ๆ ได้โดยอิสระ ทั้งในค่าย (บลจ.) เดียวกัน และต่างค่าย (บลจ.) แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า เงินลงทุนในกองทุน LTF จะไม่สามารถโอนไปเป็นกองทุนรวมอื่นๆ ได้ รวมถึงไม่สามารถโอนไปเป็นกองทุนรวม RMF ได้ และการโอนนั้นไม่ถือเป็นการซื้อหน่วยลงทุน LTF ใหม่แต่อย่างใดนะคร้าบ แต่ถ้าหากเราถือกอง LTF มาครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไขภาษีแล้ว ก็สามารถขายเอาเงินสด เพื่อเอาเงินนั้นไปซื้อกองทุนอื่น ๆ ได้ตามชอบใจ (อย่างนี้เค้าไม่เรียกโอนนี่หว่า แหะๆๆๆ)
แล้วเราจะโอนหน่วยลงทุนอย่างไรดี?
ทีนี้มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้วล่ะครับ เพราะการโอน LTF นั้นจะต้องติดต่อบลจ.ต้นทาง (เจ้าเดิม)ก่อน โดยระบุไปให้ชัดเจน ว่าจะ “โอนไปบลจ.ไหน” และ “ไปลงกอง LTF กองอะไร” โดยระยะเวลาที่ใช้ ตั้งแต่เริ่มทำเรื่อง จนถึงได้รับหน่วยลงทุนในบลจ.ใหม่ ไม่ควรเกิน 5-7 วันทำการ
.
.
เรามาทบทวน Conceptและกระบวนการโอนกันอีกครั้ง!
1) ในภาวะตลาดเดิม แต่เรามองว่า “กองทุน LTF ที่เราซื้อนั้น” ค่าย (บลจ.) บริหารได้ไม่โดนใจ จึงอยากย้ายไปค่าย (บลจ.) อื่น หรือในภาวะที่ตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นจากลงเป็นขึ้น จึงอยากย้ายจาก LTF จากประเภทหนึ่งไปเป็นอีกประเภทหนึ่ง เช่นอยากย้ายจากกองอนุพันธ์ช่วย (ประเภทที่ 3) ไปหากองหุ้นล้วน (ประเภทที่ 1) หรือไม่ก็จากภาวะตลาดขาขึ้นเป็นขาลง จึงอยากย้ายกองหุ้นล้วน (ประเภทที่ 1) ไปหากองทุนหุ้นผสม (ประเภททื 2) แทน เพื่อลดความเสี่ยง (ย้ำอีกครั้งว่าปัจจุบัน LTF ประเภทที่ 3 ที่ใช้อนุพันธ์ช่วยลดความผันผวนของราคา โอนเข้า/ซื้อเพิ่ม/เปิดเป็นกองใหม่ ไม่ได้แล้วจ้า ก.ล.ต. เขาห้ามนะเธอว์)
2) มองหาบลจ. และ กองทุน LTF ที่ถูกใจ โดยดูได้จากผลประกอบการย้อนหลัง นโยบายการลงทุนปัจจุบัน และการคิดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ศึกษาทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่จะโอนเข้าโอนออก เ
3) ติดต่อบลจ. ต้นทางเพื่อขอโอนออก ซึ่งอาจจะโดนโน้มน้าวให้อยู่ต่อ เราต้องใจแข็ง ถ้าคิดมาดี และตัดสินใจมาแล้วก็บอกไปสั้นๆเลยว่า “เธอดีเกินไป เราขอโอกาสไปต่อเถอะนะ” (รับรองว่าทางบลจ.จะมึนๆงงๆและยินยอมให้เราโอนแน่นอนครับ)
4) รอเวลา 5-7 วัน แล้วจึงตรวจสอบความครบถ้วนของหน่วยลงทุนที่ได้รับ เช่น โอนออกมากี่หน่วย คิดเป็นเงินกี่บาท โอนเข้ามาเป็นเงินกี่บาท คิดเป็นกี่หน่วย เพื่อความถูกต้องในการโอน แต่ถ้ามีปัญหาก็ติดต่อทางบลจ.ต้นทางได้เลยคร้าบ
เอาล่ะครับ!! ในตอนนี้เราก็รู้แล้วว่า LTF ทั้งหมดนั้น “สามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้” และสามารถสับเปลี่ยนไปยังค่าย (บลจ.) ไหนก็ได้ที่เราต้องการ โดยต้องไม่ลืมเสมอว่า นอกจากผลตอบแทนทางภาษีแล้ว ผลการดำเนินงานก็ถือเป็นประเด็นที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่นำมาตัดสินใจด้วยเช่นกัน แหม่… เงินของเรานี่ครับ ถ้าหากไม่บริหารให้ดี ไม่ตรวจสอบการลงทุนให้แม่นยำ บางทีผลตอบแทนที่ได้นั้นมันก็ไม่คุ้มเสีย จริงไหมล่ะคร้าบบบบ
ในตอนต่อไปเราจะมาดูกันต่อว่า แล้วบทลงโทษ ความผิด ปัญหาชีวิตต่างๆที่เราจะต้องเจอในการซื้อและขาย LTF นั้นมีอะไรบ้าง ยังไงอย่าลืมติดตามกันต่อด้วยนะคร้าบบบบ