[ภาษี] 5 วิธีหลบภาษีที่อาจจะเจอพี่สรรพากร!!!
ช่วงนี้มีเพื่อนๆ พี่ๆน้อง หลายคนถามมาทางหลังไมค์เรื่อง การวางแผนภาษี ว่าทำยังไงดีให้จ่ายภาษีน้อยๆ หรือไม่ต้องจ่ายภาษีเลยสักกะบาท เอิ่ม… @TAXBugnoms ขอประกาศดังๆ ณ จุดนี้เลยนะครับว่า การวางแผนภาษีที่ดีนั้น เราต้องยึดหลักตามกฎหมายที่ถูกต้องมากกว่าความถูกใจของเรา เพราะถ้าทำตามความถูกใจเป็นหลักแล้วค่อยเอากฎหมายมารองรับ มันอาจจะประหยัดภาษีในช่วงแรก แต่เมื่อความแตกแล้วล่ะก็ รับประกันได้ว่ามีปัญหา ยิ่งถ้าเจอพี่สรรพากร โอ้ยย.. ไปกันใหญ่
วันนี้เลยถือโอกาสรวบรวมข้อผิดพลาดทั้งหมดที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่า วิธีการแบบนี้ คือ วิธีการที่ประหยัดภาษี แถมซ้ำร้ายยังเข้าใจอีกด้วยว่า “วิธีเหล่านี้ถูกต้องตามกฎหมาย” แต่สุดท้ายบางคนเจอประเมินภาษีเงินได้จนหมดตัว อันนี้จะโทษว่าไม่รู้กฎหมายก็ไม่ทันแล้วนะคร้าบบบบ
เอาล่ะ… เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันไปทีละข้อเลยดีกว่า
วิธีที่ 1 : เรียกคนมารับรายได้แทน
สำหรับวิธีการเรียกคนมารับรายได้แทนนั้น ถือเป็นวิธีที่ง่าย และสบายๆ แถมใครๆก็ทำได้อีกด้วย แค่เพียงหาใครสักคนมาเป็นผู้มีเงินได้แทนเรา (แต่เราดันเป็นคนรับเงินจริง) เช่น นายเห่ามีเงินได้ 300,000 บาท แต่บอกให้นายป่านมาเป็นผู้มีเงินได้แทน นายเห่ารับเงิน ส่วนนายป่านรับเอกสาร แค่นี้นายเห่าก็ถือว่าไม่มีเงินได้เพราะหลักฐานการรับเงินเป็นชื่อนายป่าน
เนื่องจากตารางการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น คำนวณจาก อัตราภาษีแบบขั้นบันได หรือ ยิ่งมีรายได้มาก ยิ่งเสียภาษีมาก และถ้าเกิดนายเห่า สามารถกระจายรายได้ให้กับคนอื่นๆๆๆอีกมากมาย นั่นก็แปลว่าจะยิ่งเสียภาษีลดลงไปได้อีกมาก เพราะฐานรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ภาษีที่ต้องเสีย
แต่ความเป็นจริงแล้ว การหาคนมารับรายได้แทนนั้น ถือเป็นการเลี่ยงภาษี เนื่องจากเนื้อแท้นั้นผู้ที่มีรายได้คือ “ตัวเรา” ไม่ใช่ “คนอื่น” และถ้าถูกจับได้โดยพี่สรรพากร รับรองว่าได้ถูกประเมินภาษีกันจนอายไปเลยคร้าบ อย่างเช่น ตัวอย่างดาราดังๆหลายท่าน หรือผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายชอบทำกัน แต่พอเจอกับตัวนั้น ก็เรียกได้ว่าอ่วมอรทัยไปทุกคน
แนะนำ : อ่านเพิ่มเติมในบทความ [ภาษี] ดาราไทยกับการเสียภาษี
วิธีที่ 2 : การวางแผนตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลแบบมั่วๆ
จากข่าวคราวที่ค่อยๆออกมาอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ หลายคนยังไม่ทราบว่า การคำนวณภาษีสำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญ และคณะบุคคลกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆนี้ ทั้งในเรื่องของอัตราภาษีและวิธีคำนวณภาษีเงินได้ นอกจากนั้นยังต้องระวังเงื่อนไขการจัดตั้งว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะบางคนมีตึกให้เช่า 5 ชั้น แต่จัดตั้งคณะบุคคล 5 คณะกันเลยทีเดียว ชั้นนึงมีหนึ่งคณะทั้งที่ประกอบกิจการแบบเดียวกัน แบบนี้ถือว่าผิดวัตถุประสงค์อย่างแน่นอน และถ้าถูกจับได้ก็รับประกันว่าโดนภาษีกันอย่างถล่มทลายชัวรรร์
วิธีที่ 3 : มัวแต่หลบรายได้ตลอดเวลา
หลายๆคนที่ไม่อยากเสียภาษีมักจะมีคิดว่า หลบๆรายได้ไปเหอะ เสียภาษีแค่นี้ พี่สรรพากรไม่รู้หรอก แต่อย่าลืมนะครับว่า เราหนีความจริงไปไม่ได้ตลอด แม้บางครั้งอาจจะมีหลุดรอดไปบ้าง แต่การหลบรายได้นั้นอาจจะก่อให้เกิดปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาษีย้อนหลัง และถ้าหากเรามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท อาจจะโดนประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มอีกด้วย
หากใครที่คิดจะทำแบบนี้ ผมอยากให้ถามตัวเองว่าแล้วมันแตกต่างอะไรกับคนบางคนที่เราชิงชัง คอยก่นด่าเค้าทุกวี่ทุกวันว่า “คอรัปชั่น” หรือไม่ก็ “โกงกินบ้านเมือง” ล่ะครับ เพราะท้ายที่สุด เราทุกคนมีหน้าที่ปฎิบัติตามกฎหมาย และถ้าใครอยากเห็นประเทศไทยก้าวหน้า เราอาจจะเริ่มต้นง่ายๆที่ตัวเราก่อนโดยการทำให้ถูกกฎหมาย มันคงจะดีกว่าจริงไหมล่ะครับ
วิธีที่ 4 : หาทางสร้างค่าใช้จ่ายเท็จ
เนื่องจากภาษีคำนวณจาก “เงินได้สุทธิ” กรณีที่เราเป็นบุคคลธรรมดา และ “กำไรสุทธิ” กรณีจัดตั้งในรูปแบบนิติบุคคล โดยมีวิธีการคำนวณดังนี้
บุคคลธรรมดา : เงินได้สุทธิ มาจาก รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
นิติบุคคล : กำไรสุทธิ มาจาก รายได้ – ค่าใช้จ่าย
หลายๆคนเลยเกิดอาการหัวเส เสไปเสมา คิดขึ้นมาได้ว่า เอ๊ะถ้าหากเราเพิ่มรายได้เข้าไป พี่สรรพากรคงไม่รู้หรอกนะ โดยใช้วิธีเพิ่มค่าใช้จ่ายเอาดื้อๆ โดยไม่มีหลักฐานใดๆ แต่มันผิดตรงที่…
บุคคลธรรมดา : เพิ่มค่าใช้จ่าย (กรณีที่หักค่าใช้จ่ายตามจริง) ไม่มีหลักฐาน = ไม่สามารถใช้คำนวณภาษีได้
นิติบุคคล : นี้ถือเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี ไม่สามารถนำมาคำนวณภาษีได้เช่นกัน
วิธีที่ 5 : จ่ายเงินเสร็จแต่ไม่หัก ณ ที่จ่าย
ข้อสุดท้าย คือสิ่งที่มักผิดพลาดกันอยู่เสมอ สำหรับคนที่ทำธุรกิจ เพราะเราควรตรวจสอบการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ครบถ้วน เมื่อมีการ “จ่ายค่าใช้จ่าย” ต่างๆออกไปและกฎหมายกำหนดให้ผู้จ่ายมีหน้าที่หัก ณ ที่จ่ายไว้ เช่น ค่าบริการ ค่าขนส่ง ค่าประกันต่างๆ โดยส่วนนี้สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่ายๆ ที่ คู่มือประชาชนเกี่ยวกับการหัก ณ ที่จ่าย ของกรมสรรพากร
และทั้งหมดนี้ คือ ข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น หรือเป็นแนวคิดที่ใครหลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ ที่อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆฟัง และที่สำคัญที่สุดคือ อาจจะมีใครหลายๆคน เคยได้ยิน “เค้า” บอกมาว่าให้ทำแบบนี้สิดี ทำแบบนั้นสิโดน แต่ขอบอกและเตือนไว้ก่อนจากกันเลยครับว่า ถ้าหากเราทำผิดกฎหมายขึ้นมาจริงๆ เค้าที่บอกคงไม่ได้ช่วยอะไรเราได้ เวลาจ่ายภาษีเพิ่มเราก็ต้องจ่ายเองคนเดียวนะคร้าบบบ