[ภาษี] ปัญหาผัวๆเมียๆ แต่ไม่เพลียเรื่องภาษี
เนื่องจากช่วงนี้ได้รับคำถามเรื่องปัญหาครอบครัวอยู่บ่อยๆ อ๊ะ!! อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า @TAXBugnoms เปลี่ยนไปให้รับคำปรึกษาด้านความรักนะครับ แต่มันเป็นปัญหาระหว่างครอบครัว และเป็นเรื่องของภาษีนี่แหละครับ ที่มักจะเข้าใจผิดกันอยู่บ่อยๆ ว่า แต่งงานกันแล้วจะประหยัดภาษีจริงๆหรือเปล่า!!!
ตัวอย่างคำถามจากทางหลังไมค์ครับ…
รบกวนครับ พอดีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า สามีภรรยา ถ้าภรรยามีรายได้เยอะสามารถแบ่งไปรวมกับยอดรายได้ของสามีที่มีรายได้กว่าได้เพื่อลดภาษีของภรรยา ไม่ทราบว่าพอจะมีข้อมูลเรื่องนี้ หรือมีแหล่งให้ผมหาข้อมูลเพิ่มมั้ยครับ ขอบคุณครับ
สำหรับเรื่องนี้ ผมขออนุญาตอธิบายที่มาที่ไปตั้งแต่แรกกันเลยดีกว่านะครับ เนื่องจากโลกปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว การยื่นแบบแสดงรายการตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป กรมสรรพากรจึงได้มีประกาศกฎหมายฉบับใหม่ออกมาแก้ไขกฎหมายเดิม โดยให้สิทธิ “สามีและภรรยาสามารถแยกยื่นแบบแสดงรายการ” ชนิดที่เรียกว่าต่างคนต่างไป โดยสรุปออกมาได้เป็น 4 กรณีดังนี้ครับ
1. กรณีสามีหรือภรรยามีเงินได้เพียงคนเดียว : เมื่อใครคนหนึ่งมีเงินได้ กฎหมายกำหนดให้ คนมีเงินได้ = คนที่ยื่นแบบแสดงรายการ นั่นคือถ้าหากสามีมีเงินได้ฝ่ายเดียวก็ให้สามีเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ ถ้าภรรยามีเงินได้ฝ่ายเดียวก็เป็นหน้าที่ของภรรยาเช่นเดียวกันครับ
2. กรณีต่างคนต่างไป เอ้ย ต่างคนต่างมีเงินได้ แยกย่อยออกเป็น
2.1 แยกกันยื่นแบบแสดงรายการ : แบบนี้คือตัวใครตัวมัน ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ เราอย่ามาเจอะเจอเรื่องภาษีกันดีกว่า เรียกได้ว่าแบ่งความรับผิดชอบกันชัดเจนไปเลยครับว่าเงินได้ใครเงินได้มัน ต่างฝ่ายนั้นมีเพียงหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการตามเงินได้ที่ตัวเองได้รับ
และในกรณีที่ไม่สามารถแยกได้ว่าเงินได้เป็นของสามีหรือภรรยาคนละเท่าไรแล้วล่ะก็ กฎหมายกำหนดให้แบ่งกันฝ่ายละ “ครึ่งหนึ่ง” (50%) ยกเว้นแต่เงินได้ประเภทที่ 8 (อื่นๆ) ที่สามารถแบ่งได้ตามสัดส่วนตามที่ตกลงกัน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้เกิดการทะเลาะตบตีในครอบครัว กฎหมายเลยให้ทางเลือกแบ่งกันคนละ “ครึ่งหนึ่ง” (50%) เหมือนเดิม
สำหรับวิธีนี้จำสั้นๆง่ายว่า ถ้ามีเงินได้ประเภทที่ 8 สามารถตกลงแบ่งสัดส่วนกันได้ (ถ้าแบ่งกันไม่ได้ให้แบ่งครึ่งหนึ่ง) แต่ถ้าเป็นเงินได้ประเภทอื่นให้แบ่งได้คนละครึ่งหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น …
สามีภรรยาคู่หนึ่ง ทำธุรกิจเปิดร้านขายของร่วมกัน โดยมี เงินได้จำนวน 1,000,000 บาท ถ้าภรรยาตกลงให้สามีแบ่งรายได้ในอัตราส่วน 40/60 นั่นแปลว่า ภรรยาจะนำรายได้จำนวน 400,000 บาท (40%) ไปยื่นแบบแสดงรายการ ส่วน สามีก็จะนำรายได้จำนวน 600,000 บาท (60%) ไปยื่นแบบแสดงรายการแต่ถ้าเกิดตกลงกันไม่ได้ (ตบตีกันเป็นภาระปัญหาในครอบครัว) ก็ให้ตกลงแบ่งกันได้คนละครึ่งแทน คือ 50% หรือคนละ 500,000 บาทนั่นเองครับ
2.2 แยกยื่นเฉพาะเงินได้ประเภทที่ 1 : แบบนี้คือมี เงินได้ประเภทเงินเดือน (ประเภทที่ 1) เท่านั้น ที่ฝ่ายสามีหรือภรรยาจะเอามาแยกยื่นต่างหาก ส่วนเงินได้ตั้งแต่ประเภทที่ 2 ถึง 8 นั้น ให้นำมายื่นแบบแสดงรายการรวมกัน “แต่” ถ้าหากเลือกวิธีนี้แล้วดันจ่ายภาษีไม่ครบซะนี่ ทางสามีและภรรยาต้องร่วมกันรับผิดในการเสียภาษีที่ค้างชำระด้วยนะครับ (จะได้ไม่ต้องโทษกันไปโทษมา เดี๋ยวปัญหาครอบครัวจะเกิด รับผิดทั้งคู่เลยละกัน)
ในส่วนนี้จะเหมือนกับกฎหมายฉบับเดิมที่เราคุ้นเคยกันดี นั่นคือ รายได้ของภรรยาให้ถือเป็นรายได้ของสามี แต่กฎหมายฉบับใหม่นี้จะแตกต่างเพิ่มขึ้นมาตรงที่ให้ถือว่ารายได้ของสามีก็เป็นของภรรยาได้เช่นกัน (โอ้ววว สอดคล้องกับโลกแห่งความจริงสุดๆ) และแต่ละฝ่ายสามารถแยกยื่นออกมาได้เพียงแค่เงินได้ประเภทเดือนอย่างเดียว
2.3 ยื่นแบบแสดงรายการรวมกัน : สำหรับอันนี้ก็เอาทุกอย่างมารวมกันแบบสั้นๆ ง่ายๆไม่ต้องคิดอะไรเลยครับ ใครมีอะไรให้เอามารวมกันทุกอย่างและยื่นไปพร้อมๆกันครับ
และหลังจากที่ทั้งคู่ตกลงปลงใจเลือกวิธีการใดในการยื่นแบบแสดงรายการแล้ว กฎหมายถือว่าเป็นวิธีการยื่นรายการสำหรับปีภาษีนั้นทันที และถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการยื่นรายการในปีภาษีเดียวกัน ก็จะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรเสียก่อนครับ ถึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่เปลี่ยนได้ตามใจนะครับ เดี๋ยวจะเป็นปัญหาไม่รู้ด้วย
จากตัวอย่างเดิม…สามีภรรยาคู่นี้ที่ได้ทำธุรกิจเปิดร้านขายของร่วมกัน โดยมีเงินได้ทั้งหมดจำนวน 1,000,000 บาท และตกลงแบ่งรายได้ในอัตราส่วน 40/60 คือภรรยาจะนำรายได้จำนวน 400,000 บาทไปยื่นแบบแสดงรายการ ส่วนสามีก็จะนำรายได้จำนวน 600,000 บาทไปยื่นแบบแสดงรายการ ทีนี้เราจะหักค่าใช้จ่ายกันอย่างไรล่ะ???
สำหรับวิธีการหักค่าใช้จ่ายร้านขายของสองคนนี้ เนื่องจากรายได้จากการขายของถือเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ซึ่งสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ โดยประมวลรัษฎากรได้กำหนดให้หักในอัตรา 80%
ถ้าหากสามีภรรยาคู่นี้ตัดสินใจใช้วิธีหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา นั่นแปลว่า ภรรยาจะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 320,000 บาท (80% ของ 400,000) และสามีจะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 480,000 (80% ของ 600,000) นั่นเองงงง แต่ถ้าเกิดสามีภรรยาเกิดตัดสินใจหักค่าใช้จ่ายตามจำเป็นและสมควร ก็ให้รวบรวมรายจ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อนแล้วค่อยมาแบ่งตามสัดส่วนเหมือนกันครับ
และแน่นอนกว่า การแบ่งรายได้ ย่อมทำให้สามีและภรรยาต่างฝ่ายต่างเสียน้อยลง เพราะวิธีการคำนวณภาษีเงินได้นั้น จะคำนวณตามอัตราภาษีแบบขั้นบันได เมื่อมีเงินได้มากย่อมเสียภาษีมาก และถ้าสามารถแบ่งให้กระจายออกเป็นสองฝ่าย แน่นอนว่าย่อมเสียภาษีลดลงแน่นอนคร้าบ
สามีภรรยาทำธุรกิจร่วมกัน ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไหม
ถ้าเป็นการทำธุรกิจร่วมกันในนามของสามีภรรยา จะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้นั้น เราจะแยกออกเป็น 2 กรณีคือ
1. มีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี กฎหมายบังคับให้ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ทันที
2. มีรายได้น้อยกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี แต่อยากจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็จดได้เช่นเดียวกัน
แต่ที่สำคัญก็คือ เมื่อตัดสินใจจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ทั้งสามีและภรรยาจะไม่สามารถแบ่งรายรับได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มจะถือว่าทั้งสามีและภรรยานั้นคือหน่วยภาษีเดียวกันนั่นเองครับ
และทั้งหมดนี้คือ เรื่องการคำนวณภาษีแบบผัวๆเมียๆ แต่ไม่เพลียกับค่าใช้จ่ายนะคร้าบ และช่วงนี้ทางกรมสรรพากรได้ออกแผ่นพับใหม่มาประชาสัมพันธ์เรื่องนี้พอดี ในหัวข้อ “เสียภาษีอย่างไรให้ถูกต้องเมื่อสามีภรรยาประกอบกิจการร่วมกัน” หากใครสนใจก็สามารถดาวน์โหลดไปอ่านได้แบบฟรีๆ เลยคร้าบบบ