วันนี้ @TAXBugnoms ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายคนทางหลังไมค์ เลยสังเกตเห็นว่าช่วงนี้มีหลายๆคนกำลังหมดไฟ หมดกำลังใจในการออมเงิน และการบริหารจัดการการเงิน บางคนก็บ่นๆว่าเงินน้อยๆแบบนี้จะไปมีผลอะไร ยิ่งเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นก็ยิ่งรู้สึกหมดแรงกันไปใหญ่ วันนี้เลยมี 7 คำคมสร้างแรงบันดาลเพื่ออิสรภาพทางการเงินที่ผมชอบอ่านมาฝากกันครับ..

1. เวลานั้นมีค่ามากกว่าเงินทอง
จิม โรห์น (Jim Rohn) นักปรัชญาชาวอเมริกัน ได้กล่าวไว้ว่า Time is more valuable than money You can get more money, but you cannot get more time ซึ่งหมายความว่า เวลานั้นมีค่ามากกว่าเงินทอง ไม่ว่าคุณจะมีเงินขึ้นมากเท่าไร แต่คุณไม่สามารถซื้อเวลามากขึ้นได้ ดังนั้นลองทบทวนดูครับว่า ในทุกๆวันนี้เราใช้เวลาไปกับอะไรที่ไม่มีค่าอยู่หรือเปล่า…

2. คุณต้องใช้จ่ายเพื่อสร้างความร่ำรวย
Plautus นักเขียนบทกวีชาวโรมัน กล่าวไว้ว่า You must spend money to make money นั่นคือ เราต้องใช้จ่ายเงินทองเพื่อสร้างเงินทองกลับมาให้กลับตัวเอง คำคมนี้เป็นคติเตือนใจทุกครั้งที่คิดจะใช้จ่าย เพราะเราต้องถามตัวเองไปว่า “เราใช้จ่ายไปเพื่ออะไร?”

3. คนขี้แพ้คือคนที่กลัวความพ่ายแพ้
Robert Kiyosaki เจ้าของหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” บอกไว้ว่า Losers are people who are afraid of losing. นั่นคือคนขี้แพ้ทั้งหลายคือคนที่กลัวต่อความพ่ายแพ้ เพราะเมื่อไรที่เรากลัวที่จะพ่ายแพ้ สิ่งที่ตามมาคือการหยุดลงมือทำตามความฝัน และเมื่อไม่ลงมือทำ มันจะไปถึงความฝันได้อย่างไร จริงไหมครับ

4. งานที่ให้เงินเยอะแต่ความรับผิดชอบน้อยไม่มีในโลก
นโปเลียน ฮิลล์ (Napoleon Hill) เจ้าของหนังสือชื่อดังอย่าง “Think and Grow Rich” ให้ข้อคิดว่า Big pay and little responsibility are circumstances seldom found together หรือ งานที่ได้ค่าจ้างมากๆ แต่ความรับผิดชอบน้อยๆนั้น เกิดขึ้นพร้อมกันได้ยาก หรือเหมือนกับคำที่สไปเดอร์แมนกล่าวไว้ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ย่อมมาความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นคือ ยิ่งผลตอบแทนมาก ความรับผิดชอบของเราก็ต้องมากตามมา เพราะไม่มีใครจะยอมจ้างคนที่ไม่มีคุณค่าให้มาทำงานหรอกครับ

5. เงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่ร้องไห้ในจากัวร์ยังดีกว่ารถบัส
ฟรองชัวส์ ซากอง (Françoise Sagan) นักเขียนชาวฝรั่งเศส กล่าวไว้อย่างสะใจว่า Money may not buy happiness, but I’d rather cry in a Jaguar than on a bus นั่นคือ เงินอาจจะซื้อความสุขไม่ได้ แต่ยังไงร้องไห้ในจากัวร์ย่อมดีกว่าร้องไห้ในรถบัส เพราะความร่ำรวยที่มีแม้ไม่ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น แต่อย่างน้อยเราก็มีความทุกข์น้อยลงในเรื่องการเงินอย่างแน่นอน

6. ทุกสิ่งนั้นเกิดจากความคิดของเรา
พระพุทธเจ้าเคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่เราเป็นคือผลพวงจากความคิดเราเอง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เราก็เป็นไปตามที่ใจเราคิด” ดังนั้น ถ้าหากเราคิดท้อแท้ต่ออุปสรรค มองแต่ด้านลบในชีวิต แน่นอนว่าเรากำลังดึงชีวิตให้ตกต่ำ ดังนั้นจงปลุกพลังคิดบวกขึ้นมา และที่สำคัญกว่านั้น ต้องคิดดีด้วยนะคร้าบบ

7. การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด คือ การลงทุนในการความรู้
เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) อัจฉริยะนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า An investment in knowledge always pays the best interest หรือ การลงทุนเกี่ยวกับความรู้นั้น ย่อมให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด กว่าการลงทุนในประเภทอื่นๆ เพราะว่าถ้าเรามีความรู้ที่แท้จริงแล้ว เชื่อได้เลยว่าเราจะเข้าใจวิธีการต่างๆเพื่อต่อยอดให้ความรู้ของเรานั้นกว้างไกลออกไป ถ้าหากใครที่คิดว่าตัวเองยังไม่มีความรู้ เริ่มต้น ณ ตอนนี้ก็ยังไม่สายไปนะครับ

สุดท้ายนี้ แรงบันดาลใจหรือคำคมต่างๆมันก็เหมือนเชื้อไฟที่กระตุ้นให้หัวใจของเราตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ เมื่อเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา ก็อย่าลืมลงมือทำ มิฉะนั้นไฟอาจจะมอดไปดื้อๆก็ได้นะคร้าบบบ