สวัสดีครับ วันนี้ @TAXBugnoms จะมาแนะนำวิธีการลงทุนดีๆที่สามารถใช้ในการสร้างเงินออมของเราให้งอกเงยผ่านการลงทุน ไปพร้อมๆกับการประหยัดภาษีด้วยกันภายในขั้นตอนเดียว และที่ง่ายไปกว่านั้น คือเราทุกคนสามารถจัดสรรพอร์ทการลงทุนให้ตัวเองได้ง่ายๆภายใน 15 นาทีด้วยคร้าบบบ

ก่อนอื่นขอทบทวนอีกครั้งก่อนว่า
การจัดการด้านการเงินทีสำคัญนั้นมาจากสมการออมเงิน คือ รายได้ – เงินออม = รายจ่าย

ดังนั้นถ้าอยากเพิ่มพูนเงินออม เราก็ต้องทำการ “ออมก่อนใช้” และหลังจากนั้นหน้าที่ต่อมาของเราก็คือ นำเงินออมนั้นไปลงทุนให้งอกเงยต่อไป แต่มันคงจะดีกว่าใช่ไหมครับ ถ้าหากเราสามารถจัดการลงทุนอัตโนมัติผ่านบัญชีเงินเดือนโดยที่ไม่ต้องทำอะไร เรียกว่ามีคนทำให้เสร็จสรรพ พร้อมๆกับประหยัดภาษีไปด้วยในตัว โดยทั้งหมดนั้นมี 3 ขั้นตอนดังนี้ครับ

ขั้นตอนแรก : สำรวจตัวเองก่อนว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ (5 นาที)

เริ่มต้นจากสำรวจคุณสมบัติของเราก่อนครับ…

1. มีรายได้มากพอที่ต้องเสียภาษีในแต่ละปี
2. มีวินัยในการออมเงิน สามารถออมก่อนใช้ได้
3. มีบัญชีธนาคารที่สามารถตัดเงินฝากอัตโนมัติเพื่อซื้อกองทุนรวมได้
4. มีบัญชีกองทุนรวมของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่เราเลือกลงทุน หรือ
3. มีบัญชี Fund Supermart เพื่อซื้อกองทุนรวมได้ครบทุกกองในบัญชีเดียว

สำหรับ ข้อ 4 – 5 นั้นถ้าใครยังไม่มีบัญชีกองทุนรวมหรือไม่รู้จัก Fund Supermart
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ กองทุนซื้อที่ไหนดี และ ซื้อกองทุนง่ายๆ กับ Fund Supermart จากเพจ คลินิกกองทุน ได้เลยครับ

ขั้นตอนที่สอง : ทำแบบทดสอบความเสี่ยงเพื่อประเมินหาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (3 นาที)

สำหรับการทำแบบทดสอบความเสี่ยงนั้น เพื่อให้เราเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวัดระดับการยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนว่าเราสามารถลงทุนได้แบบไหน และอย่างไรบ้าง ซึ่งความเสี่ยงที่เราได้รับนั้นจะมีผลต่อการจัดสรรเงินลงทุนสำหรับแต่ละคนอีกด้วยครับ

โดยเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ สามารถทดลองทำแบบทดสอบความเสี่ยงได้ที่ TSI-Thailand.org ครับ
http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_wrapper&Itemid=76

เมื่อทำแบบทดสอบความเสี่ยงเสร็จแล้ว ระบบจะบอกเราเลยว่าเราเหมาะกับการลงทุนแบบไหน ต้องจัดสัดส่วนการลงทุนออกมาอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น ผมทดสอบแล้วได้คำตอบออกมาเป็นดังนี้

คุณยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับสูง โดยไม่กังวลกับความผันผวนที่เกิดขึ้นระหว่างการลงทุนเท่าใดนัก นั่นหมายถึง คุณมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนในระดับที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน แต่เพื่อความไม่ประมาท คุณอาจกระจายการลงทุนไปยังในสินทรัพย์ที่มีการเพิ่มมูลค่าได้สูงในระยะยาว แม้ว่าจะมีความผันผวนในระยะสั้นบ้าง เช่น หุ้นสามัญ กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมต่างประเทศ หรืออาจเป็นหุ้นกู้เอกชน ก็ได้

นอกจากนี้ คุณอยู่ในช่วงวัยที่เริ่มมีความมั่งคงหรือมีความมั่งคั่งแล้ว เนื่องจากได้ทำงานมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง มีหน้าที่การงานมั่งคง และมีรายได้สม่ำเสมอ รวมถึงอาจทยอยชำระหนี้สินไปได้เยอะ ดังนั้น คุณอาจเริ่มมองถึงความปลอดภัยของเงินลงทุนมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะมีเงินเก็บไว้เพื่ออนาคตของลูกๆ หรือสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อวัยเกษียณได้อย่างสุขใจ

เอ่อ… ฟังดูแก่พึลึกนะฮะ TwT แต่นี่แหละครับ เราสามารถนำผลการทดสอบที่ได้รับมาจัดพอร์ทการลงทุนในขั้นตอนต่อไปเลย!!!

ขั้นตอนที่สาม : จัดพอร์ทตัวเองทันทีและทยอยตัดบัญชีอัตโนมัติ (7 นาที)

เมื่อเห็นพอร์ทการลงทุนแล้ว เราสามารถจัดพอร์ทการลงทุนในลักษณะเดียวกันได้เลยครับ โดยขอแนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมเพราะเหมาะกับคนอย่างเราๆ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่มีเวลาน้อย ขอแนะนำให้ลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” แทนครับ โดยเลือกการลงทุนดังนี้

เงินสด
ให้ลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินเพราะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝากธนาคาร

ตราสารหนี้
เลือกลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้แทน

ตราสารทุน
เลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้มีเคล็ดลับเพิ่มขึ้นนิดนึงครับ สำหรับคนที่ต้องเสียภาษีโดยเราควรจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ก่อนเพื่อประหยัดภาษี และกระจายส่วนที่เหลือลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สำหรับส่วนที่เหลือ เช่น ตราสารหนี้หรือกองทุนรวมตลาดเงิน โดยมีแนวทางในการลงทุนดังนี้ครับ

1. ถ้าต้องการใช้เงินที่ลงทุนบางส่วนในอนาคตมากกว่าวางแผนเกษียณ ให้เลือกลงในกองทุน LTF และ RMF ตามลำดับ เช่น

– LTF >> RMF หุ้น >> RMF ตราสารหนี้
– LTF >> RMF ตราสารหนี้

2. ถ้าต้องการเน้นวางแผนเกษียณเป็นหลัก ให้เน้นลงทุนใน RMF ก่อน LTF เช่น

– RMF หุ้น >> RMF ตราสารหนี้ >> LTF
– RMF หุ้น >> RMF ตราสารหนี้ >> RMF ตลาดเงิน >> LTF

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมศึกษาเรื่องเงื่อนไขการลงทุนสำหรับ LTF และ RMF จากตารางด้านล่างนี้ด้วยนะครับ จะได้วางแผนภาษีไม่ผิดพลาด

นอกจากนั้น ทางหมอนัทแห่งเพจคลินิกกองทุนยังได้แนะนำเพิ่มเติมมาด้วยว่า…

สำหรับผู้ที่ต้องมีการใช้เงิน ในระยะสั้น อาจจะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ธรรมดาแทน RMF ที่เป็นตราสารหนี้ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการเงิน หรืออาจะลงทุนเป็นกองทุนตลาดเงินแทนก็เป็นทางเลือกที่ควรนำมาพิจารณาในการจัดพอร์ท นอกจากนั้นเรายังต้องทบทวนพอร์ทการลงทุนของเราทุกปี ไม่ให้สัดส่วนเปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่งั้นพอร์ทของเราอาจจะผิดเพี้ยนไปได้ครับ

ขอเตือนไว้ว่า… การลงทุนระยะยาวนั้นสำคัญที่ “วินัย” ดังนั้นการทุ่มเงินออมก้อนใหญ่ไปลงทุนเลยอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับวิธีการนี้ และไม่ใช่วิธีการ “อัตโนมัติ” จึงขอแนะนำให้ทยอยตัดบัญชีอัตโนมัติในทุกๆเดือนที่มีรายได้แทน เพื่อสร้างวินัยในการลงทุน และสอดคล้องกับการลงทุนระยะยาวไปพร้อมๆกับ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อน แต่เราสามารถทยอยลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนไม่มากเพื่อวางแผนประหยัดภาษีและวางแผนการเงินไปพร้อมๆกัน

สุดท้ายนี้…
หวังว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆจะสามารถจัดพอร์ทการลงทุนอย่างง่ายๆได้แล้วนะคร้าบบบบ