หยุดความเชื่อผิดๆไว้แค่นี้ ลด VAT เหลือ 6.3% ไม่มีในประเทศไทยครับ!
บล็อกสั้นๆประจำวันนี้ ขอ Update เรื่องข่าวด่วน!! ครึกโครม!! อึ้ง!! ทึ่ง! และถึงกับหลั่งน้ำตา!! #พอ ที่ใครหลายคนส่งต่อข้อมูลเรื่องการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มกันอย่างเมามันส์ผ่าน Social Network อย่าง Facebook และ Line ด้วยข้อความสั้นๆที่เขียนว่า “รัฐบาล ลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7.00 % เหลือ 6.30 % ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 แต่หลังจากนั้นกลับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็น 9.00 % ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป”
@TAXBugnoms ขอบอกสั้นๆนะครับว่า เรื่องนี้เกิดความเข้าใจผิดกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ข้อเท็จจริงสั้นๆแบบ #จบข่าว คือ ตั้งแต่มีการประกาศเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มมา คนไทยทุกคนไม่เคยได้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่า 7% เลยซักครั้ง!!!
อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มประเทศไทยที่แท้จริงคือ “ร้อยละ 10” เท่านั้น
ที่พูดแบบนี้ เพราะว่า ตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฏากรได้กำหนดให้ใช้ อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ในอัตราร้อยละ 10 เพื่อการคำนวณภาษีสำหรับการประกอบกิจการขาย ให้บริการ และการนำเข้า โดยรัฐบาลสามารถปรับให้อัตราลดต่ำลงได้โดยผ่านการตราเป็นพระราชกฤษฎีกาได้ครับ
และที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกพระพระราชกฤษฏีกาหลายฉบับ (รวมถึงประกาศของคสช.) เพื่อปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มลดลงเหลือ 6.3% มาโดยตลอด เว้นแต่ในช่วงที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 มีการปรับเป็นอัตราร้อยละ 10 อยู่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเองครับ
เฮ้ยๆๆๆ คุณหนอมครับ!! แต่กฎหมายบอกนะว่า ปรับลดลงเหลือ 6.3% แล้วทำไมเราต้องเสีย 7% ด้วยล่ะ! อันนี้ก็เพราะว่ามี ภาษีอีกส่วนหนึ่งที่ต้องเสียให้แก่ท้องถิ่นในอัตรา 1/9 ของภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงทำให้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มกลายเป็น 7% (มาจาก 6.3 + 0.7)
โดยในช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา.. พระราชกฤษฎีกาหลายๆฉบับ มักจะกำหนดสิทธิในการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 1-2 ปีเท่านั้นครับ อย่างเช่น พระราชกฤษฎีกาฉบับที่ 592 (ฉบับล่าสุด) กำหนดไว้ว่า อัตรา 6.3% จะใช้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 เท่านั้น และนั่นแปลว่าถ้าไม่มีการตราพระราชกฤษฏีกาฉบับใหม่เพื่อลดอัตราภาษีต่อไป เราจะได้กลับไปเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 10% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ครับ
มาถึงตรงนี้ทุกคนคงมีคำถามสินะครับว่า แล้วทำไมไม่กำหนดกฎหมายเพื่อคงอัตรานี้ไว้นานๆ ทำไมต้องใช้เวลาแค่ปีสองปีเท่านั้น ไม่กำหนดไว้ล่วงหน้าสัก 10 ปีไปเลยล่ะครับคุณพี่!! สำหรับจุดนี้ ผมมีความเห็นว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มถือเป็นรายได้หลักของรัฐบาลที่จัดเก็บได้ง่าย ไว และสะดวก เพราะใช้วิธีการจัดเก็บจากการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และเป็นอีกทางหนึ่งที่รัฐ “อาจจะ” ต้องเลือกใช้เมื่อขาดแคลนรายได้จริงๆ ดังนั้นการกำหนดระยะเวลาสั้นๆ ก็เพื่อสะดวกในการพิจารณาเพื่อที่ว่ารัฐจะได้มีการทบทวนอย่างสม่ำเสมออีกด้วยครับ
หรือถ้าคิดเผินๆ ตามประสาคนที่ไม่ค่อยเข้าใจการเมืองสักเท่าไร ผมเชือครับว่า ถ้าหากมีรัฐบาลใดตั้งตัวเป็น #รัฐบาลใจกล้า ขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เราก็อาจจะได้เห็นนโยบายลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มมาเป็นนโยบายในการต่อสู้ของพรรคการเมืองในคราวหน้าเช่นเดียวกันครับ
สุดท้ายแล้ว ผมมีภาพหนึ่งภาพที่อยากจะเก็บไว้เตือนใจหลายๆคนเรื่องการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ผมเชื่อว่าภาพนี้คงเป็นคำตอบของหัวข้อบทความที่บอกว่าให้เราทุกคนหยุดความเชื่อผิดๆไว้แค่นี้ แต่หันมาทำความเข้าใจและจดจำจากข้อมูลที่ถูกต้องดีกว่าคร้าบบ :)