วันนี้ขอเขียนบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่อง มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนการจ้างงานคนพิการ ครับ

จากความเห็นส่วนตัวของผมนั้น คิดว่ามาตรการทางภาษีเกี่ยวกับคนพิการนั้น เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เพราะเป็นการจูงใจให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น แถมยังเปิดโอกาสให้คนพิการมาเป็นส่วนหนึ่งร่วมสังคมกับเรา เพราะพวกเขาเหล่านี้ต้องการโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าจริงๆแล้ว ตัวเค้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แถมบางคนยังมีศักยภาพดีกว่าคนปกติเสียด้วยครับ

.
.

กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ เดี๋ยวจะนอกเรื่องไปมากกว่านี้ :D

ปัจจุบันกรมสรรพากรได้ออกมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนคนพิการออกมาจำนวน 2 ฉบับ มีรายละเอียดดังนี้ครับ

1. พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๙๙) เนื่องจากทางรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้มีการจ้างแรงงานคนพิการ ซึ่งทำให้คนพิการสามารถปฏิบัติงานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งพาตนเองได้ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเข้าทำงาน

.

ซึ่งกฏหมายฉบับนี้ได้ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ดังนี้ครับ

– กรณีที่ผู้ประกอบการรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการเข้าทำงาน ทางนายจ้างจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้ เป็นจำนวนร้อยละ 100 ของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างคนพิการเข้าทำงาน

– กรณีเจ้าของอาคารสถานที่ ยานพาหนะ บริการขนส่ง ที่จัดให้มีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้สำหรับเงินได้ เป็นจำนวนร้อยละ 100 ของรายจ่ายดังกล่าว เช่นกัน

.

2. พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์เดียวกันกับ พระราชกฤษฎีกาฯฉบับที่ ๔๙๙ ครับ แต่จะเพิ่มสิทธิพิเศษของการลดหย่อนให้ดังนี้

– ยกเว้นภาษีเงินได้ให้นายจ้างที่รับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมายว่า ที่เข้าทำงานเกินกว่าร้อยละ 60 และมีระยะเวลาจ้างเกินกว่า180 วันในปีภาษีหรือรอบระยะเวลาบัญชีที่มีเงินได้ สำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ 100 ของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างคนพิการดังกล่าว ซึ่งสิทธินี้ได้รับเพิ่มขึ้นจากสิทธิยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๔๙๙)

.

ลองมาดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ

1. บริษัทฯมีการจ้างพนักงานที่เป็นคนพิการจำนวน 1 คน ในอัตราค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท บริษัทฯจะถือเป็นรายจ่ายทางภาษีอากรได้ 30,000 บาท ตามพระราชกฤษฎีกาฯฉบับที่ ๔๙๙ ซึ่งแปลว่าสิทธิในการลดภาษีของบริษัทฯจะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า (จ่าย 1 ได้ 2)

2. บริษัทฯมีการจ้างพนักงานที่เป็นคนพิการจำนวน 10 คน ในอัตราค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งจำนวนพนักงานที่จ้างนี้คิดเป็นอัตราเกินกว่า 60% ของพนักงานทั้งหมด และบริษัทฯได้จ้างตลอดปีภาษี ดังนั้น รายจ่ายในการจ้างพนักงานที่เป็นคนพิการนั้นจะได้รับเพิ่มจากข้อ 1. อีก 1 เท่า คือ การจ่ายเงินได้ให้แก่พนักงานรวมทั้งสิ้น 150,000 บาท จะถือเป็นรายจ่ายทางภาษีอากรได้จำนวน 450,000 บาท

ซึ่งตัวเลขดังกล่าว มาจากสิทธิในการลดภาษีของบริษัทฯที่เพิ่มขึ้น 1 เท่าตามพระราชกฤษฎีกาฯฉบับที่ ๔๙๙ และได้รับเพิ่มอีก 1 เท่าตามพระราชกฤษฎีกาฯฉบับที่ ๕๑๙ (จ่าย 1 ได้ 3)

.

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนจ้างแรงงานของผู้ประกอบการหลายๆท่านนะครับ รวมถึงตัวนักบัญชีที่จะนำเสนอช่องทางลดหย่อนภาษีให้แก่บริษัทฯ ด้วยครับ

:D

.

บทความนี้อ้างอิงข้อกฎหมายจาก

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๙๙)
http://www.rd.go.th/publish/42859.0.html

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๙)
http://www.rd.go.th/publish/29741.0.html