ความรู้เกี่ยวกับการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51
การยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด. 51) ตามมาตรา 67 ทวินั้น มีหลักการและที่มาจากหลักการเสียภาษีอากรที่เป็นธรรม คือต้องการที่จะแบ่งเบาภาระภาษีของนิติบุคคลที่ต้องชำระเมื่อตอนปลายปี ให้ทยอยชำระเมื่อผ่านรอบบัญชีมาแล้วครึ่งหนึ่ง และรัฐยังได้เม็ดเงินที่เข้ามาอย่างสม่าเสมอ เพื่อที่จะใช้ในการบริหารประเทศต่อไป โดยมาตรา 67 ทวิ กำหนดให้ผู้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบภายในสองเดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
ใครเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51
ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก ฐานกำไรสุทธิ เท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย
1. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย และกิจการที่กระทำนั้นมิใช่กิจการขนส่งระหว่างประเทศ
3. กิจการที่ดำเนินเป็นทางค้าหรือหากำไร โดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย และกิจการที่กระทำนั้นมิใช่กิจการขนส่งระหว่างประเทศ
4. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ หรือกิจการที่ดำเนินเป็นทางการค้าหรือหากำไรโดยรัฐบาลต่างประเทศ องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ ที่เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทยโดยมีลูกจ้าง ผู้ทำการแทนหรือผู้ทำการติดต่อในการประกอบกิจการในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกำไรในประเทศไทย และกิจการที่กระทำนั้นมิใช่กิจการขนส่งระหว่างประเทศ
5. กิจการร่วมค้า ได้แก่ กิจการที่ดำเนินร่วมกันเป็นทางค้าหรือหากำไรระหว่างบริษัทกับบริษัท บริษัทกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล บริษัทและหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล กับ บุคคลธรรมดา คณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น
แต่กรณีดังกล่าวจะถูกยกเว้น หากรอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวเป็นรอบบัญชีแรกที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล หรือจดทะเบียนเลิกกิจการ ซึ่งรอบดังกล่าวมีกำหนดเวลาไม่ถึง 12 เดือน บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นไม่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51
ทางเลือกในการคำนวณกำไรสุทธิภาษีเงินได้นิติบุคคล มี 2 ทาง คือ
1. ประมาณการกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ
2. คำนวณและชำระภาษีจากกำไรสุทธิของรอบระยะเวลาหกเดือน สำหรับกรณีของบริษัทจดทะเบียน ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
ซึ่งหมายถึงบริษัทฯทั่วๆไปสามารถเลือกใช้วิธีการตามข้อ 1. ข้างต้น แต่หากต้องการทีจะใช้กำไรขาดทุนที่แท้จริงของรอบ 6 เดือนก็สามารถทำได้ โดยให้พิจารณาเงื่อนไขจาก ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 128)
บทกำหนดโทษของการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 51 มีเพียงกรณีเดียว คือ การไม่ยื่นแบบแสดงรายการ หรือ ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 20 ของจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระ ( มาตรา 67 ตรี ) ซึ่งวิธีการป้องกันปัญหาดังกล่าวก้ง่ายแสนง่าย แต่ผู้เสียภาษีมักจะไม่กระทำกัน คือ เลือกที่จะประมาณการกำไรสุทธิและยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีครึ่งปีไว้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในรอบระยะเวลาบัญชีที่แล้ว ให้ถือว่าเป็นกรณีมีเหตุอันสมควร (คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 50/2537) เพียงเท่านี้ก็ไม่มีปัญหาที่ต้องโดนเบี้ยปรับเงินเพิ่มและยื่นคำร้องขอพิจารณาลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มย้อนหลังแล้วครับ
ท้ายที่สุดที่จะเน้นย้ำคือ การยื่นแบบ สำหรับรอบบัญชี 1 มกราคม 2553 – 31 ธันวาคม 2553 ต้องยื่นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2553 นี้นะครับ
ที่มาของข้อมูล : กรมสรรพากร
– วิธีกรอกแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
– แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร