fbpx

มาวางแผนธุรกิจส่วนตัวกันนะเธอว์ ตอนที่ 4 | ทำธุรกิจแบบ “นิติบุคคล”


วันนี้ก็มาต่อกันในตอนที่ 4 ซึ่งหัวข้อของเรายังคงวนเวียนอยู่กับเรื่อง “รูปแบบธุรกิจ” อยู่เหมือนเดิมครับ แต่คราวนี้จะมาเล่าให้ฟังในส่วนของ “นิติบุคคล” จากรูปเราจะเห็นว่าทางด้านของนิติบุคคลจะมีอยู่ 3 รูปแบบ คือ ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมีลักษณะเป็นอย่างไร เรามาทำความรู้จักไปพร้อมๆกันเลยคร้าบบ

– ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน –

ความเดิมตอนที่แล้ว… (เอ๊ะ นี่มันเพลงของน้องๆ Zaza นี่นา – -‘) ได้อธิบายเรื่องของห้างหุ้นส่วนสามัญไว้ว่าเป็นห้างหุ้นส่วนที่ผู้เป็นหุ้นส่วนต้องร่วมกัน”รับผิด”ใน”หนี้สิน”ทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน ซึ่งทางด้านของห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนก็เป็นเหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของ “นิติบุคคล” เท่านั้นเองเนอะ

– ห้างหุ้นส่วนจำกัด –

ห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ ห้างหุ้นส่วนที่ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ห้างหุ้นส่วนประเภทนี้ต้องใช้คำว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” นำหน้าชื่อ เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัดประกอบด้วยผู้เป็นหุ้นส่วน 2 ประเภท คือ “หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ” และ “หุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบ”

1. หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ เป็นหุ้นส่วนประเภทที่จำกัดความรับผิดชอบในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนรับจะลงทุนในห้างหุ้นส่วน โดย”ไม่มีสิทธิ”เข้าจัดการงานของห้างหุ้นส่วน

2. หุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบ เป็นหุ้นส่วนประเภทที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันในหนี้สินของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน กฎหมายระบุว่าต้องมีหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดชอบอย่างน้อย 1 คน ในห้างหุ้นส่วนจำกัด มีแต่หุ้นส่วนประเภทนี้เท่านั้นที่มีสิทธิเข้าจัดการงานของห้างหุ้นส่วน

โดยหุ้นส่วนคนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนนั้น เราจะเค้าเรียกว่า “หุ้นส่วนผู้จัดการ” ครับ

– บริษัทจำกัด –

บริษัทจำกัด เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยมีบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ตกลงเข้าร่วมทุนโดยกำหนดทุนออกเป็นหุ้น รวมถึงกำหนดมูลค่าหุ้นไว้ด้วย ใช้คำนำหน้าว่า “บริษัท” และคำว่า “จำกัด” ต่อท้ายชื่อ โดยความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นจะมีเฉพาะมูลค่าหุ้นส่วนที่ชำระเท่านั้น

ปัจจุบัน การประกอบกิจการในรูปแบบ “บริษัทจำกัด” นี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมากครับ ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองไปถามทนายหรือบริษัทฯทำบัญชีก็ได้ครับ ส่วนมากจะแนะนำบอกให้คุณจดทะเบียนในรูปแบบของ “บริษัท” มากกว่า “ห้างหุ้นส่วน” เพราะว่า เค้าจะได้ค่าจดทะเบียนมากกว่านั้นเองครับ (ฮาาาาา ล้อเล่นน่ะครับ)

จริงๆแล้ว ที่คนส่วนใหญ่นิยมจดบริษัท เพราะว่าสามารถระดมเงินทุนเป็นจำนวนมากได้ง่ายกว่าวิธีอื่น โดยเฉพาะการกู้ธนาคาร ธุรกิจในรูปแบบบริษัทจะดูดีมีภาษีมากกว่าห้างหุ้นส่วนอยู่ประมาณหนึ่งเท่าตัวเลยล่ะครับ เพราะว่า บริษัทมีบางอย่างที่ดู “น่าเชื่อถือ” มากกว่าห้างหุ้นส่วน แต่ว่าจะน่าเชื่อถือมากกว่าตรงไหนนั้น ผมมองว่าอาจจะตรงที่การจดทะเบียนบริษัทนั้นมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่าห้างหุ้นส่วนครับ และจำนวนทุนที่ใช้ในการจดทะเบียนบริษัทก็มักจะสูงกว่าห้างหุ้นส่วนเช่นกันครับ เลยทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูน่าเชื่อถือมากกว่าห้างหุ้นส่วน

เมื่อเรารู้จักกับ “รูปแบบ”ของธุรกิจแล้ว ทีนี้เราลองมาเปรียบเทียบกันดูว่า ธุรกิจแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไรกันบ้างดีกว่าครับ ผมได้ทำสรุปมาให้ดู ตามภาพข้างล่างแล้วครับ

(คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)

สำหรับตอนที่ 4 นี้ เราก็ได้รู้จักรูปแบบของธุรกิจแต่ละประเภทอย่างคร่าวๆแล้วนะครับ ว่าเป็นอย่างไรและมีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง โดยผมคงจะไม่ได้กล่าวลงลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละธุรกิจไปมากกว่านี้ เพราะว่าต้องการให้รู้จักกับ “รูปแบบ” เบื้องต้นก่อน เพียงเท่านั้น แต่ถ้าหากใครมีปัญหาสงสัยก็สามารถสอบถามได้นะครับ หรืออยากจะให้อธิบายตรงไหนเพิ่มเติมก็บอกผมได้ ผ่านทาง Comment ด้านล่างหรือว่าจะไปพูดคุยกันที่หน้า Facebook ของ “บล็อกภาษีข้างถนน” ก็ได้ครับ

ในตอนต่อไป เราจะมาว่ากันถึงเรื่องของการเลือกรูปแบบธุรกิจ และภาระ “ภาษี” ที่จะเกิดขึ้นของธุรกิจแต่ละรูปแบบ ว่าแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันอย่างต่อเนื่องนะครับ แล้วก็อย่าลืมช่วยกัน Like และ Share บทความนี้ให้ผมบ้างนะคร้าบบบ

:D

error: เว็บไซต์ป้องกันการ copy