[ บทความพิเศษ ] สามีภรรยากับการเสียภาษี
บทความนี้เขียนขึ้นมาพิเศษสำหรับคนที่แต่งงานโดยเฉพาะครับ เพราะว่ามีเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับผู้มีเงินได้ที่อยู่ในสถานะ “สามี” และ “ภรรยา” ตามกฎหมายครับ ซึ่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ผมคิดว่า ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่สำคัญมากเลยครับ แต่จะสำคัญยังไงนั้น ผมคิดว่าเราควรจะย้อนไปพูดคุยถึงเรื่องของหน้าที่ของผู้ชายในอดีตก่อนดีกว่าครับ
ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ เคยได้ยินคำว่า “เงินได้ของภรรยาให้ถือเป็นเงินได้ของสามี” มาบ้างหรือเปล่าครับ ซึ่งคำนี้ก็มีที่มาจาก “มาตรา 57 ตรี” และ “มาตรา 57 เบญจ” แห่งประมวลรัษฎากรนั่นเองครับ โดยใจความสำคัญก็คือ ให้ถือเอาเงินได้ของภรรยาเป็นเงินได้ของสามี เว้นแต่เงินได้ประเภทเงินเดือน ตามมาตรา 40(1) เท่านั้นที่ให้สิทธิภรรยาในการแยกยื่นเป็นเงินได้ของตัวเองเท่านั้น
– ทำไมถึงให้สิทธิแค่เงินเดือน –
ถ้าใครพอติดตามประวัติศาสตร์ หรือดูละครย้อนยุคต่างๆมาบ้าง ก็คงจะสังเกตเห็นว่าผู้ชายสมัยก่อนนั้น เป็นผู้ที่มีหน้าที่หารายได้เข้าบ้านเพียงคนเดียว ส่วนผู้หญิงก็มีหน้าที่เป็นแม่บ้าน ดูแลจัดการการบ้านการเรือนเลี้ยงลูกและสามี
ผลจากการที่ผู้ชายต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหารายได้เข้าบ้าน จึงทำให้กฏหมายในช่วงนั้นประเมินว่า รายได้ทั้งหมดควรจะตกเป็นของฝ่ายชายแต่เพียงผู้เดียว และผมคิด (เอาเอง) ว่าอาจจะมีผู้ชายบางคนในสมัยนั้นหัวหมอ ทำเนียนโอนทรัพย์สินไปให้กับภรรยาเพื่อที่จะกระจายรายได้ตัวเองให้เสียภาษีน้อยลง ทางฝ่ายบริหารบ้านเมืองก็เลยอุดช่องโหว่โดยการที่ออกกฎหมายมาห้ามว่า ถ้าหากภรรยามีเงินได้แล้วล่ะก็ ให้ถือเป็นรายได้ของสามีซะ เว้นเสียแต่ “เงินเดือน” ซึ่งเป็นงานที่ภรรยาต้องออกไปหางานทำประจำด้วยตัวเองเท่านั้น จึงจะมีสิทธิในการแยกคำนวณภาษีเงินได้ และกฎหมายตามมาตรา 57 ที่ว่านี้เอง คงเล่นเอาชายไทยในสมัยนั้น “เงิบบบบบ” กันไปหลายคน ….
แต่ในปัจจุบันยุคสมัยได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เงินทองเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นผู้ชายไม่ต้องจับดาบขึ้นต่อสู้เพื่อหาเงิน แต่มแต่มแต้ม … แต่ผู้หญิงนี่แหละที่จะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันทำมาหากิน หารายได้จุนเจือครอบครัว หรือว่าผู้หญิงบางคนที่เป็นโสดอยู่ อย่างน้อยก็มีความคิดที่ว่า ทำไมต้องรอผู้ชายเลี้ยง ชั้นหาเลี้ยงตัวเองก็ได้ เชอะ!!!
ดังนั้น ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าหน้าที่ของผู้หญิงในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน แต่ก็ยังตงต้องเลี้ยงลูก ดูแลบ้าน และดูแลสามีอยู่ดีแหละ (อันนี้ผู้ชายเค้าฝากบอกมา แหะๆ) แต่ผมบอกตรงๆเลยครับว่า รู้สึกนับถือในความอดทนและทุ่มเทของผู้หญิงในสมัยนี้มากครับ บางครั้งนึกอยากให้คุณสามีทั้งหลายรู้ไว้เลยนะครับว่า “ภาระ” ของภรรยานี่หนักหนากว่าที่คิดมากมายครับ
อ๊ะ!!! ทีนี้กลับมาที่เรื่องของภาษี เราจะเห็นว่า ตอนที่ยังไม่แต่งงานก็ไม่น่าจะมีปัญหาเท่าไร เพราะต่างคนต่างเสียภาษี รายได้ของใครของมัน แต่พอ “แต่งงาน” กันแล้วนี่สิ สถานะเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นว่ารายได้ของผู้หญิงในส่วนที่ไม่ใช่ “เงินเดือน” ต้องนำมาถือเป็นเงินได้ของ “สามี” ทั้งหมด
และนี่ก็เป็นที่มาของปัญหาโลกแตกที่ว่า คนที่ “แต่งงาน” แล้วดันเสียภาษี “มากกว่า” คนโสด จนบางคู่ทนไม่ไหว ตัดสินใจที่จะ “หย่า” กันเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีในส่วนนี้เลยนะครับ (อันนี้ประสบการณ์ตรงจากคนรู้จักเลยคร้าบ TwT)
ซึ่งจากปัญหาเรื่องผัวๆเมียๆ กับเจ้าภาษีที่มีมานานนี่เอง ทำให้มีการหารือไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะวินิจฉัยว่ากรณีดังกล่าวนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึงเป็นกฎหมายหลักหรือไม่ โดยผมเคยเขียนถึงเรื่องนี้ลง “บล็อกภาษีข้างถนน” ไปครั้งหนึ่งแล้วเหมือนกันครับ
สรรพากรเตรียมแก้ไขประมวลรัษฎากร เรื่อง การแยกยื่นภาษีเงินได้ระหว่างสามี
http://tax.bugnoms.com/tax/divide-tax-unit-husband-wife/
ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ คือ ทางศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 17/2555 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2555 ว่า
การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากสามีและภริยาตามมาตรา 57 ตรี และมาตรา 57 เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร ถือเป็นการ “จำกัด” สิทธิสามีและภริยาในการยื่นรายการและเสียภาษี ถือว่า ไม่ส่งเสริมความเสมอภาคของชายและหญิง จึงขัดหรือแย้งต่อมาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 บทบัญญัติตามมาตรา 57 ตรี และมาตรา 57 เบญจ แห่ง ประมวลรัษฎากร จึงเป็นอันใช้บังคับมิได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
โดยใจความหลักในเรื่องนี้ก็คือ ตัว “ประมวลรัษฎากร” นั้น มีเนื้อหาที่ขัดแย้งกับ “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นกฎหมายหลัก จึงทำให้ผลของกฎหมายไม่สามารถบังคับใช้ได้ ซึ่งการที่จัดเก็บภาษีเงินได้โดยไม่ส่งเสริมความเสมอภาคนี้ ก็เป็นสิ่งที่หลายๆคนรู้สึกกันมานานใช่ไหมครับ ^^
ทีนี้เมื่อมีผลการวินิจฉัยออกมาแล้ว กรมสรรพากรจึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากสามีและภริยาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
หากใครสนใจก็สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ ^^
http://www.rd.go.th/publish/fileadmin/download/regulation200955.pdf
โดยเนื้อหาหลักๆที่ประกาศออกมา คือ “การเก็บภาษีเงินได้จากสามีและภริยาสำหรับปีภาษี 2555 เป็นต้นไปนั้น มิให้ ถือว่าเงินได้พึงประเมินของภริยาเป็นเงินได้ของสามี”
เท่านั้นยังไม่พอ!!! นอกจากเรื่องรายได้ที่เป็นเรื่องหลักแล้ว สิทธิ “ค่าลดหย่อน” ก็จะเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกันครับ โดยผมได้ทำสรุปออกมาเป็นตารางตามรูปด้านล่างนี้ครับ
(คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
(คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปขนาดใหญ่)
.
.
– สิทธิประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มเข้ามานั้น มีอะไรบ้าง? –
สิทธิประโยชน์หลักๆที่ผมเห็นว่าสำคัญก็คือ กรณีค่าลดหย่อนสำหรับผู้ที่มี “บุตร” โดยในกรณีที่ต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ และความเป็นสามีภริยาได้มีตลอดปีภาษี จะได้รับสิทธิลดหย่อนบุตรเป็น “คนละ” 15,000 บาทและลดหย่อน “การศึกษาของบุตร” อีก 2,000 บาท ซึ่งสิทธิในส่วนนี้จะแตกต่างจากเมื่อก่อน คือ ให้แบ่งสิทธิกันคนละครึ่ง
อ้างอิงจากคำชี้แจงของกรมสรรพากร เรื่อง “แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากสามีและภริยา”
ตัวอย่างที่ ๖ สามีภริยามีเงินได้ทั้งสองฝ่าย มีบุตรด้วยกัน 1 คน ถ้าความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษี สามีและภริยาหักลดหย่อนบุตร 15,000 บาท และการศึกษาบุตรอีก 2,000 บาท (ฝ่ายละ 17,000 บาท) แต่ถ้าความเป็นสามีภริยามิได้มีอยู่ตลอด ปีภาษี สามีและภริยาหักได้ฝ่ายละ 8,500 บาท
.
.
– ค่า “ลดหย่อน” ไม่รวมรายการ “ยกเว้น” และไม่ได้แปลว่า “ทั้งจำนวน” –
หลายๆคนที่เห็นตารางสรุปนี้ แล้วก็ถามทันทีว่า ทำไมๆๆๆ เกิดอะไรๆๆๆๆ รายการประกันชีวิต ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมและรายการอื่นๆถึงเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ล่ะ เดิมที่ให้สิทธิตั้ง 100,000 บาท ทำไมกลายเป็น 10,000 บาทเลยล่ะ ทำไมล่ะครับพี่ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ทำไมกฎหมายมันถึงไม่แฟร์แบบนี้ ประชาชนกำลังทุกข์ยากนะ เข้าใจกันหน่อย ฯลฯ
หยุด!!!!!!!! สักประเดี่ยวก่อนคร้าบบบบบ คือว่า ข้อมูลในส่วนนี้มีความแตกต่างกันอยู่นิดนึงนะครับ ตรงคำว่า ค่า”ลดหย่อน” และ “ยกเว้น” เงินได้ ซึ่งในตารางนี้จะหมายถึงเฉพาะส่วนของ “ค่าลดหย่อน” เท่านั้นนะครับ ไม่ใช่ “การยกเว้น” ทั้ง “จำนวน”
ตัวอย่างเช่น ประกันชีวิตที่หักได้ 100,000 บาทนั้น มาจากสองส่วนคือ ส่วนแรก หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท และส่วนที่สองคือ ค่าประกันชีวิตส่วนที่เกิน 10,000 บาท จะได้รับยกเว้น (จากเงินได้) ไม่เกิน 90,000 บาท ถึงจะรวมเป็น 100,000 บาทนั่นเองครับ
ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็เอาเป็นว่า “สิทธิ” ทั้งหมดยังได้เท่าเดิมนะคร้าบบบบบบบบ ^^
ถ้าใครยังสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ผมแนะนำให้ดูตารางนี้ประกอบครับ
http://www.rd.go.th/publish/45879.0.html
เอาล่ะครับ บทความนี้ก็เป็นการสรุปสั้นๆถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการเสียภาษีเงินได้ระหว่าง สามี และ ภรรยา ตาม”แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากสามีและภริยา” ของกรมสรรพากรที่ได้ชี้แจงออกมาครับ ซึ่งผมนำมาสรุปใหม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น (หรือเปล่า) และคิดว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสามีภรรยาทุกๆคู่ครับ
เอ้า!! ทีนี้ใครที่วางแผนแต่งงานกัน ก็คงไม่ต้องกลัวเรื่องภาษีแล้วนะคร้าบบบบบบบบบบบบบ
:D